การมีสิ่งปนเปื้อนในห้องคลีนรูมไม่ว่าจะมาจากร่างกายหรือจากการกระทำของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการทำงานในห้องคลีนรูม ดังนั้นเราจึงต้องคำนึงถึงข้อปฏิบัติในการใช้งานห้องคลีนรูม รวมถึงสวมชุดป้องกันที่เหมาะสมและได้มาตรฐานที่กำหนด ขณะใช้งานห้องคลีนรูม เพื่อให้ผู้ใช้งานในห้องคลีนรูมไม่ได้รับอันตรายจากสิ่งปนเปื้อน และทำให้ห้องคลีนรูมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรฐานการแต่งกายในห้องคลีนรูม
การปฏิบัติการในห้องคลีนรูมตามมาตรฐาน OSHA standard 29 CFR 1910 ตาม Class ต่าง ๆ จะมีข้อกำหนดและการปฏิบัติที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
- Class I : เหมาะกับการใช้งานสารเคมีที่อันตรายในปริมาณน้อย โดยจะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างเหมาะสม เช่น ถุงมือ แว่นตา หรือหน้ากากป้องกันลม รวมถึงการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
- Class II : เหมาะกับการใช้งานสารเคมีที่เป็นอันตรายในปริมาณมากกว่า Class I โดยจะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างเข้มงวด เช่น สูทป้องกันการสัมผัส หน้ากากป้องกันลม และแว่นตาป้องกัน เพื่อป้องกันการได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส หรือการสูดดม
- Class III : เหมาะกับการใช้งานที่มีสารเคมีในปริมาณมาก โดยจะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันที่มีความปลอดภัยสูงสุด เช่น สูทป้องกันการสัมผัส หน้ากากป้องกันลม แว่นตาป้องกัน และถุงมือที่เหมาะสม รวมไปถึงต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวดในการใช้งานสารเคมี และการทำความสะอาดอุปกรณ์และพื้นผิวอีกด้วย
ซึ่งการปฏิบัติตามมาตรฐาน OSHA จะช่วยให้ผู้ใช้งานแต่งกายและปฏิบัติงานสำหรับการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างเหมาะสมตามคลาสของห้องคลีนรูมนั่นเอง
อุปกรณ์และชุดคลีนรูมที่ได้มาตรฐาน
อุปกรณ์และชุดคลีนรูมที่ต้องใช้ในการทำงานในห้องสะอาดหรือห้องปลอดเชื้อ จะประกอบด้วยอุปกรณ์สำคัญขั้นพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
- ชุดคลีนรูม (Cleanroom Garments)
- คุณสมบัติ : ชุดที่ผลิตจากผ้าที่มีไฟฟ้าสถิตต่ำและมีความทนทานต่อเคมีได้ดี เพื่อป้องกันเส้นใยหลุดลุ่ยในการสวมใส่และใช้งานในห้องสะอาด
- การใช้งาน : สวมชุดคลีนรูมทุกครั้งที่เข้าห้องคลีนรูม เพื่อรักษาความสะอาดของพื้นที่และป้องกันการปนเปื้อนจากตัวผู้ใช้งาน
- ชุด ESD (Electrostatic Discharge) หรือ ชุดกันไฟฟ้าสถิต (Antistatic Garments)
- คุณสมบัติ : ชุดที่ผลิตจากวัสดุที่สามารถลดการสะสมของไฟฟ้าสถิตได้ เพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิตที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- การใช้งาน : ใช้เมื่อมีการทำงานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนที่อาจได้รับความเสียหายจากไฟฟ้าสถิต เป็นต้น
- หน้ากาก (Face Mask)
- คุณสมบัติ : หน้ากากป้องกันของเหลวหรือสารเคมีที่อาจกระเด็นเข้าสู่ตาหรือใบหน้า
- การใช้งาน : สวมใส่เมื่อมีความจำเป็นต้องป้องกันการสะเทือนหรือการกระเด็นจากสารเคมี
- ถุงมือคลีนรูม (Cleanroom Gloves)
- คุณสมบัติ : ถุงมือคลีนรูมที่ผลิตจากวัสดุที่มีไฟฟ้าสถิตต่ำ และป้องกันการสะสมเชื้อโรคหรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ
- การใช้งาน : สวมเพื่อป้องกันการปนเปื้อนและทำความสะอาดพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รองเท้าคลีนรูม (Cleanroom Shoes)
- คุณสมบัติ : รองเท้าคลีนรูมผลิตจากวัสดุที่มีไฟฟ้าสถิตต่ำและเน้นความสะดวกสบายในการสวมใส่ใช้งาน
- การใช้งาน : สวมเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากภายนอกและรักษาความสะอาดของพื้นที่ในห้องคลีนรูม
แนวทางปฏิบัติสำหรับการทำงานในห้องคลีนรูม
กฎระเบียบและวิธีการทำงานที่ถูกต้องและปลอดภัยสำหรับการใช้งานห้องคลีนรูมมีดังนี้
- การเข้า-ออกห้องคลีนรูม : ควรระมัดระวังในการเข้า-ออกห้องคลีนรูมเพื่อป้องกันการปนเปื้อน โดยการใส่อุปกรณ์และชุดป้องกันทุกครั้งเมื่อใช้งานห้องคลีนรูมและถอดทุกครั้งเมื่อออกจากห้องคลีนรูม
- สุขอนามัย : ล้างมือก่อนและหลังการใช้งานห้องคลีนรูม โดยไม่นำมือไปสัมผัสตา จมูก หรือปากก่อนล้างมือ
- การแต่งกาย : สวมชุดคลีนรูมและอุปกรณ์ความปลอดภัยตามที่กำหนด และหลีกเลี่ยงการสวมเครื่องประดับต่าง ๆ เมื่อใช้งานห้องสะอาด
- ข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติ : ไม่สูบบุหรี่หรือใช้ยาเสพติดในห้องคลีนรูม ไม่ทิ้งขยะหรือวัสดุที่ไม่เหมาะสมในห้องคลีนรูม
- การเก็บวัสดุ-อุปกรณ์ : ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อนและหลังการใช้งานทุกครั้ง
- การรักษาความสะอาด : ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบริเวณพื้นที่ใช้งานและอุปกรณ์ รวมถึงเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่หลังจากการใช้งานเสร็จ
สิ่งที่ไม่ควรทำในการปฏิบัติภายในห้องคลีนรูม
แนวทางและข้อบังคับสำหรับการใช้งานในห้องคลีนรูมเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้
- ห้ามสูบบุหรี่หรือใช้ยาเสพติดภายในห้องคลีนรูม : เนื่องจากเชื้อเพลิงจากบุหรี่หรือสารพิษจากยาเสพติดอาจสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้งานและสภาพแวดล้อมภายในห้องคลีนรูม
- ห้ามทิ้งขยะลงบนพื้น : การทิ้งขยะอาจทำให้สภาพแวดล้อมภายในห้องคลีนรูมเสีย และเป็นที่อาศัยของเชื้อโรคและแมลง
- ห้ามทำสารเคมีรั่วไหล : การใช้งานสารเคมีต้องอยู่ในระดับที่ปลอดภัยและไม่มีการรั่วไหลออกมาจากบริเวณทำงาน เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพและสภาพแวดล้อม
- ห้ามใช้สารเคมีที่มีกลิ่นแรง : สารเคมีที่มีกลิ่นแรงอาจทำให้ผู้ใช้งานไม่สบาย และสามารถทำให้สภาพแวดล้อมภายในห้องคลีนรูมไม่พึงประสงค์ได้
- ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารที่ไม่ได้รับอนุญาต : งดการใช้เครื่องมือสื่อสารที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการใช้งานอุปกรณ์หรือสารที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสภาพแวดล้อม
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารหรือเครื่องดื่มภายในห้องคลีนรูม : การทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนและเป็นที่อาศัยของแมลงและเชื้อโรคขึ้นได้
- ห้ามสัมผัสสิ่งที่มีสารพิษหรือสิ่งปนเปื้อน : เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพจากสารพิษและสิ่งปนเปื้อนที่อาจเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนังหรือทางการหายใจ
โดยการปฏิบัติตามข้อบังคับเหล่านี้จะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมภายในห้องคลีนรูมให้คงอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับการทำงานและการรักษาความสะอาดในสถานที่ทำงานอย่างเหมาะสม ตลอดจนไม่ก่อให้เกิดอันตรายสำหรับผู้ใช้งานภายในห้องคลีนรูมอีกด้วย
“CAI Engineering” มืออาชีพเฉพาะทางในอุตสาหกรรมคลีนรูม
CAI Engineering ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคลีนรูมที่ให้บริการตั้งแต่การ ออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้งระบบคลีนรูม 4.0 ตลอดจนบริการหลังการขายด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี โดยมีวิศวกรมืออาชีพเฉพาะทางพร้อมให้บริการแบบครบวงจร เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งานคลีนรูมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมทางการแพทย์ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทีมงาน CAI Engineering เราพร้อมมุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการที่ดีที่สุด โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการออกแบบและใช้งานคลีนรูม เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ในอุตสาหกรรมคลีนรูม