หลักการออกแบบห้องปฏิบัติการในการเก็บสเต็มเซลล์ (Stem Cell Laboratory)

สเต็มเซลล์ (Stemcell) นับเป็นหนึ่งในความหวังใหม่ของวงการแพทย์ในการรักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงด้านความสวยความงาม ด้วยศักยภาพในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดอื่น ๆ ทำให้สเต็มเซลล์มีมูลค่าสูงมาก ดังนั้นการเก็บรักษาสเต็มเซลล์จึงต้องอาศัยห้องปฏิบัติการที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจัดเก็บสเต็มเซลล์จะคงสภาพและมีคุณภาพสูงสุดตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา ดังนั้นการออกแบบห้องปฏิบัติการสำหรับการจัดเก็บสเต็มเซลล์จึงไม่ใช่เพียงแค่ห้องปฏิบัติการทั่วไป แต่เป็นห้องที่มีมาตรฐานสูงในการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ความสะอาด และการป้องกันการปนเปื้อน เพื่อให้สเต็มเซลล์มีอายุยืนยาวและสามารถนำมาใช้ในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานของสเต็มเซลล์ให้คงคุณภาพสูงสุดอีกด้วย

4 หลักการสำคัญของห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์

4 หลักการสำคัญในการดำเนินงานในห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ ได้แก่

การออกแบบห้องปฏิบัติการที่ดี (Good Laboratory Design) : ห้องแล็บสเต็มเซลล์จะต้องมีการควบคุมการปนเปื้อน การจัดการการไหลของอากาศ การควบคุมอุณหภูมิและความชื้น และคำนึงถึงความปลอดภัย
บุคลากรที่มีความชำนาญ (Skilled Personnel) : บุคลากรต้องได้รับการฝึกอบรมในเทคนิคการเพาะเลี้ยงและการจัดการสเต็มเซลล์อย่างถูกต้อง รวมถึงความรู้ในด้านชีววิทยาของสเต็มเซลล์และวิธีการควบคุมการปนเปื้อน รวมถึงบุคลากรต้องมีการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อความก้าวหน้าในเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ อีกทั้งต้องสามารถปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานและข้อกำหนดทางวิทยาศาสตร์และจริยธรรมอย่างเคร่งครัดได้อีกด้วย
อุปกรณ์ที่เหมาะสม (Proper Equipment) : การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์โดยเฉพาะ และต้องได้รับการบำรุงรักษารวมถึงการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่มีมาตรฐาน (Standard Operating Procedures) : กระบวนการทำงานจะต้องหมั่นทบทวนและปรับปรุง SOPs อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ ๆ และบุคลากรต้องปฏิบัติงานตาม SOPs อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันความผิดพลาดและรักษาคุณภาพของงานในห้องปฏิบัติการ Stemcell

องค์ประกอบสำคัญในห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์มีอะไรบ้าง

องค์ประกอบสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ (Stem Cell Laboratory) มีดังนี้

พื้นที่การทำงานหลัก : พื้นที่การทำงานหลักในห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ต้องถูกออกแบบและจัดสรรให้เหมาะสม เพื่อรองรับการดำเนินงานที่หลากหลายและมีความละเอียดอ่อน โดยมีการแบ่งเป็น 3 พื้นที่หลัก ๆ ดังนี้
- พื้นที่เพาะเลี้ยงเซลล์ (Cell Culture Area)
- พื้นที่เตรียมสารเคมี (Chemical Preparation Area)
- พื้นที่วิเคราะห์และตรวจสอบ (Analytical and Examination Area)

อุปกรณ์และเครื่องมือ :

- Incubator : ใช้ในการเพาะเลี้ยงเซลล์เพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเซลล์
- Centrifuge : ใช้ในการแยกเซลล์หรือสารต่าง ๆ ออกจากกัน
- Microscope : ใช้ในการตรวจสอบและวิเคราะห์สเต็มเซลล์ เพื่อประเมินคุณภาพและสถานะของเซลล์ในกระบวนการต่าง ๆ
- Cryopreservation Equipment : ใช้สำหรับการแช่แข็งและเก็บรักษาสเต็มเซลล์ที่อุณหภูมิต่ำ Autoclave ใช้ในการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ

บุคลากรในห้องปฏิบัติการ :

- นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย (Scientists and Researchers) : ทำหน้าที่ในการวางแผนและดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับสเต็มเซลล์ รวมถึงการพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ ในการใช้งานสเต็มเซลล์ในการรักษาโรค
- เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ (Laboratory Technicians) : ทำหน้าที่ในการจัดการอุปกรณ์ ดูแลความสะอาดและความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการ รวมถึงช่วยในการดำเนินกระบวนการต่าง ๆ
- ผู้จัดการห้องปฏิบัติการ (Laboratory Manager) : ทำหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการทรัพยากรในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการประสานงานระหว่างทีมงานและการดูแลให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

การออกแบบและวางแผนห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์

ข้อควรพิจารณาหลัก ๆ สำหรับการวางแผนและการออกแบบห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ (Stem Cell Laboratory) เช่น งบประมาณ พื้นที่ ประเภทและขอบเขตงานที่ต้องดำเนินการ พื้นที่การทำงานหลัก บุคลากร และอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น

ข้อกำหนดในการสร้างห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์

การจัดวางพื้นที่และการออกแบบโครงสร้าง (Layout and Structural Design) : การออกแบบต้องคำนึงถึงการแยกพื้นที่ทำงานอย่างชัดเจนระหว่างพื้นที่สะอาด พื้นที่กึ่งสะอาด และพื้นที่ปนเปื้อน เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนข้ามระหว่างกระบวนการ
การควบคุมสภาพแวดล้อม (Environmental Control) : ห้องปฏิบัติการต้องติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และการกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงเซลล์ โดยการใช้ HEPA filters และระบบควบคุมการไหลของอากาศ (Laminar Air Flow) เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการปนเปื้อนจากอนุภาคในอากาศ
อุปกรณ์และเครื่องมือ (Equipment and Tools) : ห้องปฏิบัติการต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น Biosafety Cabinet สำหรับการทำงานที่ต้องการความปลอดภัยทางชีวภาพสูง และอุปกรณ์เพาะเลี้ยงเซลล์ที่มีมาตรฐานสูง และต้องมีอุปกรณ์สำรองสำหรับการทำงานในกรณีที่อุปกรณ์หลักไม่สามารถใช้งานได้อีกด้วย
มาตรฐานความปลอดภัยและการป้องกันการปนเปื้อน (Safety and Contamination Prevention Standards) : มีการออกแบบระบบความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น ระบบตรวจจับและควบคุมการปนเปื้อน การจัดการของเสีย และการป้องกันอัคคีภัย และฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้เข้าใจถึงการใช้งานอุปกรณ์และปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

เปิดห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ไครโอวิวา โดย CAI Engineering

ห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ (Stemcell) ของธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ไครโอวิวา Cryoviva ที่สร้างโดย CAI Engineering ตั้งแต่การออกแบบ การติดตั้งงาน M&E, ระบบ HVAC, งาน Utility รวมถึงการติดตั้งผนังนำเข้าจากแบรนด์ WISKIND ตลอดจนการ Commissioning และ Validate ด้วยวิศวกรผู้ชำนาญและมากประสบการณ์ที่คอยควบคุมดูและทุกขั้นตอนในการสร้างห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์

“CAI Engineering” ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างห้องปฏิบัติการสำหรับจัดเก็บสเต็มเซลล์

CAI Engineering รับสร้างห้องปฏิบัติการสำหรับจัดเก็บสเต็มเซลล์ โดยทีมงานมืออาชีพเพื่อออกแบบและสร้างห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ที่ตรงตามมาตรฐานสูงสุดและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้า โดยมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้ความสำคัญในการจัดเก็บสเต็มเซลล์โดยเฉพาะ ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการใช้งานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การนำระบบ BAS/BMS มาประยุกต์ใช้ในระบบ HVAC ด้วย Cotroller จากแบรนด์ Sauter