ห้องแรงดันบวก VS ห้องแรงดันลบ แตกต่างกันอย่างไร ? สำคัญอย่างไรกับห้องปลอดเชื้อ

ห้องแรงดันบวก VS ห้องแรงดันลบ แตกต่างกันอย่างไร ? สำคัญอย่างไรกับห้องปลอดเชื้อ

ห้องแรงดันบวกและห้องแรงดันลบสำหรับห้องปลอดเชื้อ มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการรักษาสภาพแวดล้อมที่ปราศจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนในสถานที่ที่ต้องการความสะอาดอย่างห้องคลีนรูม (Cleanroom) ห้องสะอาด หรือห้องปลอดเชื้อ เนื่องจากการควบคุมแรงดันอากาศสามารถช่วยรักษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับบุคลากรทางแพทย์ โดยป้องกันไม่ให้สารปนเปื้อน หรือเชื้อโรคเข้ามาในห้องได้ และเลือกใช้ห้องที่มีแรงดันเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ปราศจากเชื้อโรคและอนุภาคปนเปื้อน โดยการป้องกันไม่ให้สิ่งปนเปื้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในห้อง (ห้องแรงดันบวก) หรือการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากภายในห้องฟุ้งกระจายสู่ภายนอก (ห้องแรงดันลบ) เป็นต้น

ห้องแรงดันบวกคืออะไร ?

ห้องแรงดันบวกคืออะไร ?

ห้องแรงดันบวก (Positive Pressure Room) คือ ห้องที่มีความดันภายในห้องมากกว่าความดันด้านนอกห้อง โดยออกแบบมาเพื่อรักษาความสะอาดและป้องกันสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก ซึ่งมีเพียงอากาศที่มีแรงดันบวกเข้าไปในห้องได้เท่านั้น โดยหลักการการทำงานของห้องแรงดันบวก คือเมื่อมีแรงดันบวกที่สูงกว่าบริเวณรอบ ๆ ห้อง จะทำให้อากาศภายนอกไม่สามารถเข้ามาในห้องได้ ทำให้ภายในห้องมีความสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรค ตัวอย่างของห้องแรงดันบวก เช่น ห้องคลอดทารก ห้องผ่าตัด เป็นต้น

ห้องแรงดันลบคืออะไร ?

ห้องแรงดันลบคืออะไร ?

ห้องแรงดันลบ (Negative Pressure Room) คือ ห้องที่มีความดันภายในห้องต่ำกว่าด้านนอกห้อง โดยห้องแรงดันลบเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคออกไปยังบริเวณอื่น ๆ ซึ่งมีแรงดันต่ำกว่าบริเวณรอบ ๆ ห้อง ทำให้อากาศภายในห้องถูกดึงเข้ามาในห้องและไม่สามารถหลุดออกไปยังภายนอกได้ โดยหลักการทำงานของห้องแรงดันลบ คือเมื่อมีแรงดันลบที่สูงกว่าบริเวณรอบ ๆ ห้อง จะสร้างการไหลของอากาศภายนอกเข้ามาในห้อง ทำให้ภายในห้องมีแรงดันต่ำกว่าภายนอก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโรคออกไปยังบริเวณอื่น ๆ ตัวอย่างของห้องแรงดันลบ เช่น ห้องฆ่าเชื้อ ห้องฉุกเฉิน ห้องสำหรับตรวจหาเชื้อ เป็นต้น

ความแตกต่างระหว่างห้องแรงดันบวกและห้องแรงดันลบ

ความแตกต่างระหว่างห้องแรงดันบวกและห้องแรงดันลบ
  • ความดันอากาศภายในห้อง
    • ห้องแรงดันบวก : มีความดันบวกสูงกว่าภายนอกห้อง
    • ห้องแรงดันลบ : มีความดันลบต่ำกว่าภายนอกห้อง

 

  • ทิศทางการไหลของอากาศ
    • ห้องแรงดันบวก : อากาศไหลจากในห้องไปยังภายนอกห้อง
    • ห้องแรงดันลบ : อากาศไหลจากภายนอกเข้ามาในห้อง

 

  • จุดประสงค์ในการใช้งาน
    • ห้องแรงดันบวก : ป้องกันการเข้ามาของฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคจากภายนอก
    • ห้องแรงดันลบ : ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากภายในไปยังภายนอก

 

  • ประโยชน์ในการใช้งาน
    • ห้องแรงดันบวก : สำหรับการรักษาความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อ
    • ห้องแรงดันลบ : ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

 

  • ตัวอย่างห้องที่ใช้งาน
    • ห้องแรงดันบวก : ห้องคลอดทารก, ห้องผ่าตัด, ห้องเฝือก 
    • ห้องแรงดันลบ : ห้องฆ่าเชื้อ, ห้องฉุกเฉิน, ห้องสำหรับการตรวจหาเชื้อ

การออกแบบห้องแรงดันบวกและห้องแรงดันลบ

การออกแบบหรือการควบคุมระบบต่าง ๆ ที่สำคัญภายในห้องปลอดเชื้อความดันบวกและห้องปลอดเชื้อความดันลบ มีลักษณะของห้องและองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบห้องแรงดัน ดังนี้

 

  • การออกแบบห้องแรงดันบวก

 

  1. อัตราการระบายอากาศ : ต้องมีอัตราการระบายอากาศขั้นต่ำอยู่ที่ 12 AirChange และต้องมีระดับต่างของแรงดันบวกอยู่ที่ระดับอย่างน้อย +2.5Pa
  2. กรองอากาศ : ระบบกรองอากาศจะช่วยกรองฝุ่นละอองและเชื้อโรคจากอากาศที่เข้ามาในห้อง โดยมักใช้กรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซึ่งสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การควบคุมอุณหภูมิและความชื้น : ต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้องให้สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์


  • การออกแบบห้องแรงดันลบ

 

  1. อัตราการระบายอากาศ : ต้องมีอัตราการระบายอากาศขั้นต่ำอยู่ที่ 12 AirChange และต้องมีระดับต่างของแรงดันลบอยู่ที่ระดับอย่างน้อย -2.5Pa
  2. การออกแบบระบบระบายอากาศ : มักมีการติดตั้งพัดลมหรือระบบระบายอากาศเพื่อดูดอากาศจากภายในห้องและปล่อยออกไปยังภายนอก ซึ่งการติดตั้งระบบระบายอากาศนี้จะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคในห้องได้
  3. การควบคุมการกระจายอากาศ : ระบบควบคุมการกระจายอากาศในห้องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคออกไปยังพื้นที่อื่น ๆ โดยป้องกันการเข้าถึงของอากาศที่มีเชื้อโรคไปยังพื้นที่อื่น ๆ
  4. การตรวจสอบและบำรุงรักษา : ระบบจะต้องมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดระบบการระบายอากาศและการเปลี่ยนตัวกรองอากาศ เป็นต้น

 

หากคุณกำลังสงสัยว่าแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ สามารถคลิกอ่านได้ที่บทความ : เช็คให้ดีแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter ถึงเวลาเปลี่ยนหรือยัง? หรือต้องการทำความเข้าใจเรื่อง Air Change มากยิ่งขึ้น ได้ที่บทความ : Air Change Rate สำคัญอย่างไรกับห้องคลีนรูม?

 

อ้างอิงจาก : ชัชวาลย์ คุณค้ำชู. (2564), การออกแบบห้องแรงดันบวกและแรงดันลบ. สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศ 64(26), 6-11. สืบค้นจาก https://acat.or.th/download/acat_or_th/V26-(2).pdf

สร้างห้องปลอดเชื้อโดยวิศวกรเฉพาะทางต้องที่ “CAI Engineering”

CAI Engineering เรารับออกแบบและสร้างห้องคลีนรูม ห้องสะอาด หรือห้องปลอดเชื้อที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเน้นประโยชน์ในการใช้งานเป็นหลัก โดยมีวิศวกรเฉพาะทางในอุตสาหกรรมปรับอากาศและคลีนรูมที่มีความชำนาญและมากประสบการณ์ทั้งในไทยและต่างประเทศมามากกว่า 20 ปี ในการออกแบบระบบปรับอากาศ และเลือกใช้ระบบที่เหมาะสม อีกทั้งยังเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ในกระบวนการออกแบบและใช้งานห้องคลีนรูมอย่างนวัตกรรม BIM, BAS/BMS และอื่น ๆ เพื่อยกระดับห้องคลีนรูมสู่ยุค 4.0

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

T-VER โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจในประเทศไทย ซึ่งสามารถนำไปคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เพื่อซื้อขายในตลาดคาร์บอนได้

Read More »
เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศ ทางเลือกใหม่เพื่ออากาศบริสุทธิ์ในอาคาร

เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศ ทางเลือกใหม่เพื่ออากาศบริสุทธิ์ในอาคาร

สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้วยเทคโนโลยีเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศทางเลือกใหม่เพื่อการประหยัดพลังงาน

Read More »

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า