การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเป้าหมายการลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเป้าหมายการลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน

การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไปในบรรยากาศมีผลกระทบที่สำคัญต่อสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของการเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีผลในการกระตุ้นการกระจายความร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก เช่น การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล หรือภัยแล้ง นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสุขภาพมนุษย์ได้ อีกทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ อย่างปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร จนถึงปัญหาทางเศรษฐกิจร่วมอีกด้วย 

จึงทำให้หลายประเทศทั่วโลกได้มีการกำหนดเป้าหมายในการลดคาร์บอนเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยการนำ “เทคโนโลยี AI” มาประยุกต์ใช้เพื่อจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในหลายแง่มุมเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

เทคโนโลยี AI ช่วยลดคาร์บอนได้อย่างไร?

เทคโนโลยี AI ช่วยลดคาร์บอนได้อย่างไร?

AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) คือ การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานหรือจำลองศักยภาพความคิดของมนุษย์ได้ โดยใช้การเรียนรู้และประมวลผลข้อมูล ส่วนของ AI ประกอบไปด้วย Machine Learning (การเรียนรู้ของเครื่อง) Neural Networks (เครือข่ายประสาทเทียม) Natural Language Processing (การประมวลผลภาษาธรรมชาติ) และอื่น ๆ ซึ่งมีการใช้งานหลากหลายในสาขาต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การรับรู้และจดจำรูปภาพ หรือการแปลภาษา 

โดยบทบาทสำคัญในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมและการลดคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

  1. การวิเคราะห์ข้อมูลสภาพภูมิอากาศ: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่จากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เพื่อทำนายแนวโน้มสภาพภูมิอากาศและเตือนภัยทางสิ่งแวดล้อม
  2. การจัดการพลังงาน: AI สามารถช่วยในการจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทางอุตสาหกรรม
  3. การตรวจจับและควบคุมการปล่อยมลพิษ: ระบบ AI สามารถใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อตรวจจับและลดการปล่อยสารมลพิษได้
  4. การคาดการณ์และการจัดการน้ำ: AI สามารถช่วยในการคาดการณ์ภัยน้ำท่วมและการจัดการการใช้น้ำในระบบที่มีประสิทธิภาพ
  5. การพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว: ช่วยในการวิเคราะห์และพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI เพื่อการลดโลกร้อน

องค์กรจากทั่วโลกต่างเริ่มมีการนำ AI มาปรับใช้เพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรและส่วนรวม โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อการลดโลกร้อนและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก  เช่น อาคารสินธร วิลเลจ และอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น

1. บริษัทเอสซีจี และ สยามสินธร พัฒนาอาคารสินธร วิลเลจ เป็นอาคารเขียว (Green Building) อาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นอาคารที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED ด้วยคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังใส่ใจเรื่องคุณภาพอากาศเป็นพิเศษ ด้วยการทดสอบคุณภาพอากาศของทุกห้องพักด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ให้เป็นไปตาม WELL Standard

อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

2. อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นอาคารที่มีความทันสมัย คำนึงถึงการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการวางรูปแบบอาคารในบริเวณทางเข้าอาคาร มีพื้นที่ปรับอากาศภายในอาคาร และออกแบบให้มีพื้นที่กั้นอากาศร้อน ที่ใช้ประตูหมุน Revolving Doors กักอากาศร้อนและความชื้นจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ปรับอากาศภายในอาคาร และยังสามารถลดการสูญเสียความเย็นอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง: Green Network

AI ตัวช่วยบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในอนาคตอย่างยั่งยืน

AI มีศักยภาพที่จะพัฒนาและนำมาใช้เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยเป้าหมายของ Net Zero คือการทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ทั้งหมดจากกิจกรรมมนุษย์ เทียบกับประมาณการลดหรือชดเชยการปล่อยนั้นเป็นศูนย์ หรือเทียบเท่ากัน ซึ่งทำให้ไม่มีการเพิ่มปริมาณ GHG ในบรรยากาศ 

ซึ่งในทางการเมืองและธุรกิจ Net Zero บ่งชี้ว่าประมาณการ GHG ที่ปล่อยออกไปจะถูกชดเชยหรือลดลงถึงศูนย์ โดยทั่วไปจะมีการใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การปลูกต้นไม้ หรือการลงทุนในโครงการที่ผลิตพลังงานสีเขียวเพื่อชดเชยปริมาณ GHG ที่ปล่อยไป

การทำ Net Zero มีความสำคัญมากในการรักษาความสมดุลระหว่างการพัฒนาและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อทำให้ Net Zero เกิดขึ้นได้จริง 

โดยการใช้ AI เพื่อลดปริมาณ GHG (ก๊าซเรือนกระจก) มีหลายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและลดผลกระทบส่งผลต่อสภาพแวดล้อม เช่น 

  1. การจัดการพลังงาน: โดยการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงการใช้พลังงานในอุตสาหกรรม โดยการตรวจสอบและประเมินปริมาณพลังงานที่ใช้ในกระบวนการต่าง ๆ และแนะนำวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  2. การจราจรและขนส่ง: ใช้ AI เพื่อจัดการการจราจรและการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบจราจรอัจฉริยะที่ช่วยลดอุบัติเหตุและลดการปล่อย GHG จากยานพาหนะ ให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กระบวนการต่าง ๆ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด 

มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ไปกับ CAI Engineering

CAI Engineering ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงปัญหาโลกร้อนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน ดังนั้นเราขอเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเป้าหมาย NET Zero ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการสร้างห้องคลีนรูม ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงการใช้งานห้องคลีนรูม เช่น เทคโนโลยี BIM, BAS และ Hololens เพื่อทำให้การจัดการภายในอาคารมีประสิทธิภาพมากที่สุด อำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานและยังช่วยในด้านของการประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนแก่ผู้ประกอบการได้อีกด้วย เพราะรักษ์โลกและตอบโจทย์ผู้ใช้งานไปพร้อม ๆ กัน ต้องสร้างห้องคลีนรูมกับ CAI Engineerin

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า