โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

วิกฤตโลกร้อนกำลังคุกคามโลกของเราจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กลายเป็นวิกฤติระดับโลก ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG : Greenhouse Gas Emissions) ซึ่งถูกจับตามองอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานในปริมาณมาก ดังนั้นทั่วโลกจึงเร่งหามาตรการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความท้าทายให้กับธุรกิจที่ต้องการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความยั่งยืน

 

คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้จากการดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านกลไกการลดก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ จึงกลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมให้ธุรกิจต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น 

 

โดยในประเทศไทย โครงการ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถลดและบริหารจัดการการปล่อยเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้นบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับโครงการ T-VER ว่าคืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิต และเพราะเหตุใดโครงการนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความยั่งยืนและแข่งขันในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่เคย

รู้จักกับโครงการ T-VER

รู้จักกับโครงการ T-VER

โครงการ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) คือ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย จัดขึ้นโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยแบบสมัครใจ โดยโครงการที่ผ่านการรับรองจะได้รับ คาร์บอนเครดิต (1 คาร์บอนเครดิต = 1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) ซึ่งสามารถขายในตลาดคาร์บอนหรือใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซขององค์กร โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ลดก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างตลาดคาร์บอนในประเทศ องค์กรสามารถเข้าร่วมโครงการเพื่อลดการปล่อยก๊าซหรือซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อสร้างความยั่งยืนและเสริมภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อม

ประเภทของโครงการ T-VER

ประเภทโครงการลดก๊าซเรือนกระจกที่สามารถพัฒนาและเข้าร่วมในโครงการ T-VER ได้ มีดังต่อไปนี้

  • การใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy): เช่น การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ลม หรือชีวมวล
  • การจัดการภาคโรงงานอุตสาหกรรม (Factory) : เช่น การปรับเปลี่ยนสารทำความเย็นธรรมชาติ หรือการใช้วัสดุทดแทนปูนเม็ด
  • การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Efficiency)  : เช่น การปรับปรุงระบบผลิตหรืออาคารประหยัดพลังงา
  • การจัดการของเสีย (Waste) : เช่น การผลิตก๊าซชีวภาพจากขยะหรือระบบจัดการน้ำเสี
  • การอนุรักษ์ป่าไม้ (Land Use : Agriculture & Forestry) : เช่น การปลูกป่าและการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า
  • การจัดการภาคขนส่ง (Transport) : เช่น การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือการใช้ยานพาหนะไฟฟ้า
  • การดักจับ กักเก็บ หรือใช้ประโยชน์จากก๊าซเรือนกระจก (CUUS) : เช่น การนำก๊าซที่ปล่อยออกมาเข้าสู่กระบวนการกักเก็บเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์
  1.  

หลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการ T-VER

หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาเพื่อเข้าร่วมโครงการ T-VER สำหรับองค์กรที่ต้องการทำคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) มีดังนี้

  1. ความเพิ่มเติม (Additionality) : โครงการต้องแสดงให้เห็นว่าการลดก๊าซเรือนกระจกเกิดขึ้นจริงและไม่ซ้ำซ้อนกับนโยบายหรือโครงการที่มีอยู่แล้ว
  2. การวัดผลได้ (Measurable) : ต้องสามารถคำนวณและตรวจสอบปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้อย่างชัดเจน
  3. ความถาวร (Permanence) : การลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกต้องคงอยู่ในระยะยาว
  4. ไม่มีผลกระทบเชิงลบ : โครงการต้องไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
  5. ความสมัครใจ: โครงการต้องดำเนินการโดยความสมัครใจขององค์กร

ระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ

ระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจสำหรับประเภทโครงการต่าง ๆ ได้แก่

  • พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานที่ใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล : สร้างหรือเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานชีวมวล เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าและการผลิตความร้อน : ปรับปรุงกระบวนการผลิต เช่น การใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงหรือระบบ Combined Heat and Power (CHP) เป็นต้น
  • การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ : ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนเพื่อลดการใช้รถส่วนบุคคล ลดการปล่อยก๊าซจากการเดินทาง
  • การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า : ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดการปล่อยก๊าซจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในภาคขนส่ง
  • การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ : พัฒนาเครื่องยนต์หรือใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงานต่อระยะทาง
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารและโรงงานและในครัวเรือน : ปรับปรุงการใช้พลังงาน เช่น ติดตั้งระบบประหยัดพลังงานในอาคารหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง
  • การปรับเปลี่ยนสารทำความเย็นธรรมชาติ : แทนที่สารทำความเย็นที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกสูง เช่น สารทำความเย็น HFCs ด้วยสารทำความเย็นธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • การใช้วัสดุทดแทนปูนเม็ด : ใช้วัสดุอื่นแทนปูนเม็ดในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์เพื่อลดการปล่อย CO₂
  • การจัดการขยะมูลฝอย : ลดขยะที่ส่งไปฝังกลบ โดยใช้ระบบรีไซเคิล กำจัดขยะ หรือผลิตพลังงานจากขยะ
  • การจัดการน้ำเสียชุมชน : บำบัดน้ำเสียด้วยระบบที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนและไนตรัสออกไซด์
  • การนำก๊าซมีเทนกลับมาใช้ประโยชน์ : ดักจับก๊าซมีเทนจากหลุมฝังกลบหรือระบบน้ำเสียเพื่อใช้เป็นพลังงาน
  • การจัดการน้ำเสียอุตสาหกรรม : ใช้ระบบบำบัดที่ลดการปล่อยก๊าซ เช่น ระบบไร้ออกซิเจนที่ผลิตก๊าซชีวภาพ
  • การลด ดูดซับ และการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากภาคป่าไม้และการเกษตร : ส่งเสริมการปลูกป่า อนุรักษ์พื้นที่สีเขียว และการใช้การเกษตรแบบยั่งยืน
  • การดักจับ กักเก็บ และการใช้ประโยชน์จากก๊าซเรือนกระจก : ใช้เทคโนโลยี Carbon Capture and Storage (CCS) เพื่อลดการปล่อยก๊าซสู่บรรยากาศ

ประโยชน์ของโครงการ T-VER

ประโยชน์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรที่เข้าร่วมโครงการ T-VER มีดังนี้

  1. ช่วยลดต้นทุนพลังงานและปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิต
  2. สร้างภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อองค์กร
  3. เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะในตลาดที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ลดคาร์บอนฟุตพรินต์
  4. มีส่วนช่วยประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่น ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) เป็นต้น

 

ที่มา : กลไกก๊าซเรือนกระจก. (2559). T-VER คืออะไร, จาก https://ghgreduction.tgo.or.th/th/about-tver/t-ver.html

กลไกก๊าซเรือนกระจก. (ม.ป.ป.). ระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ, จาก https://ghgreduction.tgo.or.th/th/t-ver.html

CAI Engineering ขอสนับสนุนและส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม เราจึงมุ่งเน้นในการประหยัดพลังงานสำหรับอุตสาหกรรมคลีนรูมและอุตสาหกรรมปรับอากาศ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อพิชิต Net Zero ในภาคธุรกิจร่วมกัน พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่มีอยู่อุตสาหกรรมคลีนรูมและอุตสาหกรรมปรับอากาศ

 

ขอแนะนำบทความที่น่าสนใจ : 

 

ปรึกษาเรื่องการสร้างห้องคลีนรูม

หรือติดตามความรู้เรื่องนวัตกรรมการปรับอากาศ

Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb

E-mail : veeraya@caiengineering.com

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

T-VER โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจในประเทศไทย ซึ่งสามารถนำไปคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เพื่อซื้อขายในตลาดคาร์บอนได้

Read More »
เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศ ทางเลือกใหม่เพื่ออากาศบริสุทธิ์ในอาคาร

เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศ ทางเลือกใหม่เพื่ออากาศบริสุทธิ์ในอาคาร

สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้วยเทคโนโลยีเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศทางเลือกใหม่เพื่อการประหยัดพลังงาน

Read More »

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า