เจาะลึกโครงสร้างพื้นฐานของระบบ BAS/BMS ในการควบคุมระบบปรับอากาศ HVAC

เจาะลึกโครงสร้างพื้นฐานของระบบ BAS/BMS ในการควบคุมระบบปรับอากาศ HVAC

แนวคิดของระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ (BAS : Building Automation System) หรือระบบการจัดการอาคาร (BMS : Building Management System) ได้กลายมาเป็นหัวใจหลักในการทำให้อาคารสมัยใหม่สามารถควบคุมและจัดการระบบปรับอากาศ (HVAC) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และรักษาความสะดวกสบายของผู้ใช้งานได้อย่างยั่งยืน 

 

โดยบทบาทสำคัญของระบบควบคุมอัตโนมัติ BAS/BMS ในการควบคุมระบบปรับอากาศ HVAC ในอาคารนั้นทำหน้าที่ตั้งแต่การตรวจจับข้อมูลอุณหภูมิ ความชื้น และคุณภาพอากาศในอาคาร (IAQ) ไปจนถึงการปรับตั้งค่าการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ อัตโนมัติ เพื่อให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างคุ้มค่าที่สุด อีกทั้งระบบ BAS/BMS ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศด้วยการลดภาระการใช้พลังงานในช่วงที่มีการใช้งานต่ำหรือในเวลาที่อุณหภูมิภายนอกเหมาะสม ทำให้ทั้งอาคารเย็นสบายตลอดเวลาโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน

 

แนะนำบทความที่เกี่ยวข้อง : 

หลักการทำงานเบื้องต้นของระบบควบคุมอัตโนมัติ BAS/BMS

หลักการทำงานต่าง ๆ ของระบบควบคุมอัตโนมัติ BAS/BMS ที่ใช้ในระบบปรับอากาศ ทำหน้าที่หลัก ๆ ในการควบคุมระบบปรับอากาศในอาคาร ดังต่อไปนี้เช่น

  • การควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และความดันตามที่ได้ออกแบบไว้ 
  • การวางแผนเรื่องการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย ค่าไฟฟ้า สำหรับเครื่องจักรต่าง ๆ 
  • การเก็บข้อมูลการใช้งานของเครื่องจักรในสภาวะและเวลาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและตรงตามการใช้งานจริง 
  • การตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามที่ต้องการ 
  • การทราบถึงสถานภาพของอุปกรณ์เพื่อป้องกันการเสียหาย และการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้เพื่อหยุดการทำงานของอุปกรณ์หากมีอุณหภูมิสูงเกินไป เป็นต้น 
  • สามารถเชื่อมต่อกับเซนเซอร์ในทุกส่วนของอาคาร ทำให้สามารถควบคุมได้แบบเรียลไทม์และปรับการทำงานให้เข้ากับสภาวะปัจจุบันได้ทันที

องค์ประกอบหลักของระบบควบคุมอัตโนมัติ BAS/BMS

องค์ประกอบหลักของระบบควบคุมอัตโนมัติ BAS/BMS

ส่วนประกอบหลักของระบบควบคุมอัตโนมัติ BAS/BMS ที่ใช้ในระบบปรับอากาศ HVAC มี 3 องค์ประกอบสำคัญ ดังต่อไปนี้ 

  1. Sensor (ตัววัดค่าพารามิเตอร์) : ใช้ในการตรวจจับและวัดค่าต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ความดัน และระดับ CO2 ภายในอาคาร โดยข้อมูลที่ได้จะถูกส่งไปยัง Controller เพื่อการประมวลผล
  2. Controller (เครื่องควบคุม) : การประมวลผลข้อมูลจากเซนเซอร์และตัดสินใจควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ HVAC เช่น การปรับอุณหภูมิหรือการเปิด-ปิดอุปกรณ์ตามค่าที่ตั้งไว้
  3. Controlled Device (อุปกรณ์ควบคุม) : อุปกรณ์ที่ได้รับสัญญาณจาก Controller เพื่อทำงาน เช่น การเปิดหรือปิดพัดลม วาล์ว หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

การทำงานของ DDC Controller ในระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับระบบ HVAC

การทำงานของ DDC Controller ในระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับระบบ HVAC

DDC Controller (Direct Digital Controller) เป็นอุปกรณ์ควบคุมดิจิทัลที่ใช้ในระบบควบคุมอัตโนมัติ BAS/BMS โดยเฉพาะในระบบปรับอากาศ HVAC สำหรับอาคาร โดยหน้าที่หลักของ DDC Controller คือการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบ HVAC เช่น เครื่องปรับอากาศ คอมเพรสเซอร์ พัดลม และระบบระบายอากาศ ผ่านการประมวลผลและสั่งการแบบดิจิทัล โดยการทำงานของ DDC Controller ในการควบคุม HVAC มีหน้าที่ในการรับข้อมูลจากเซนเซอร์ ประมวลผลข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบกับค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้า (Set Points) และสั่งงานอุปกรณ์ เป็นต้น

ส่วนประกอบของระบบควบคุมแบบ DDC Controller

ส่วนประกอบสำคัญของระบบควบคุม DDC Controller มี 3 องค์ประกอบ ดังนี้

  1. Input : การรับข้อมูลจากเซนเซอร์ต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และความดัน เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมภายในอาคาร
  2. Controller : การประมวลผลข้อมูลจาก Input โดยเปรียบเทียบกับค่าที่ตั้งไว้ (Set Points) เพื่อตัดสินใจควบคุมการทำงานของระบบ HVAC ให้เหมาะสม
  3. Output : การส่งสัญญาณควบคุมไปยังอุปกรณ์ในระบบ HVAC เช่น พัดลม วาล์ว และตัวควบคุมความดัน เพื่อปรับสภาพอากาศในอาคารให้ตรงตามที่ตั้งค่าไว้

โครงข่ายการควบคุม DDC Networking

โครงข่ายการควบคุม DDC Networking

การแบ่งโครงข่ายการควบคุมของระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ดังต่อไปนี้

  1. ระดับการบริหาร (Management Level) : เป็นระดับสูงสุด ใช้ในการจัดการและตรวจสอบภาพรวมของระบบอาคาร เช่น การวิเคราะห์การใช้พลังงานและการวางแผนบำรุงรักษา โดยใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมจากคอมพิวเตอร์
  2. ระดับควบคุมหลัก (Automation Level) : ทำหน้าที่เชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูลจากเซนเซอร์ต่าง ๆ ในระบบ HVAC และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน DDC Controller เพื่อควบคุมการทำงานอัตโนมัติของระบบในแบบเรียลไทม์
  3. ระดับควบคุมรอง (Field Level) : เป็นระดับที่ต่ำที่สุด ทำหน้าที่เก็บข้อมูลจากเซนเซอร์และส่งไปยังระดับควบคุมหลัก พร้อมปฏิบัติการตามคำสั่ง เช่น เปิด-ปิดวาล์วหรือปรับพัดลม เป็นต้น

การทำงานของระบบ BAS/BMS กับระบบปรับอากาศ HVAC

ระบบ BAS/BMS เป็นระบบอัตโนมัติที่ใช้ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในอาคาร รวมถึงระบบปรับอากาศ (HVAC) โดยอาศัยเซนเซอร์และซอฟต์แวร์เพื่อปรับอุณหภูมิ ความชื้น และการระบายอากาศให้เหมาะสมตามสภาพของอาคาร ซึ่งข้อดีของการใช้ BAS/BMS ในการควบคุม ระบบปรับอากาศ HVAC คือช่วยประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนการบำรุงรักษา เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ และเพิ่มความสะดวกสบาย

“CAI Engineering” ผู้นำนวัตกรรมปรับอากาศด้วยโซลูชันควบคุมอาคารอัจฉริยะ

CAI Engineering เราได้เลือกใช้ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะจากแบรนด์ “SAUTER” ในการควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ HVAC ภายในอาคาร รวมถึงเลือกแบรนด์เครื่องเติมอากาศ DOAS หรือ AHU จาก Robatherm แบรนด์ชั้นนำจากเยอรมันสำหรับระบบปรับอากาศในอาคารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบคุณภาพอากาศที่ดีให้กับผู้ใช้งานอาคาร พร้อมยึดมั่นในหลักการที่จะนำพาอุตสาหกรรมปรับอากาศก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero Emission ในอนาคตอย่างยั่งยืน

 

บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ : 

 

ปรึกษาเรื่องการสร้างห้องคลีนรูม

หรือติดตามความรู้เรื่องนวัตกรรมการปรับอากาศ

Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb

E-mail : veeraya@caiengineering.com

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า