ในอาคารขนาดใหญ่อย่างอาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม หรือโรงพยาบาล มักมีการติดตั้งระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System: BAS หรือ Building Management System: BMS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการระบบต่าง ๆ ภายในอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ระบบปรับอากาศ” หรือระบบ HVAC ซึ่งเป็นระบบสำคัญที่ส่งผลต่อความสะดวกสบาย การประหยัดพลังงาน และความปลอดภัยของผู้ใช้งานภายในอาคาร
โดยระบบ BAS/BMS มีบทบาทสำคัญในการมอนิเตอร์และควบคุมการทำงานของระบบ HVAC โดยสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานแบบเรียลไทม์ ปรับตั้งค่าอัตโนมัติเพื่อลดการใช้พลังงาน และส่งสัญญาณแจ้งเตือน (Alarm) เมื่อเกิดปัญหาหรือความผิดปกติกับอุปกรณ์หรือกระบวนการภายในระบบ เช่น อุณหภูมิผิดปกติ แรงดันตก หรือการทำงานล้มเหลวของเครื่องจักร
ซึ่งช่วยให้ช่างเทคนิคหรือผู้บริหารจัดการอาคารสามารถเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที และบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับ “10 สัญญาณเตือนภัย” ที่ควรรู้ไว้เพื่อลดความเสี่ยงในระบบ HVAC สำหรับอาคาร ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถป้องกันความเสียหายล่วงหน้า รักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และยืดอายุการใช้งานของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สัญญาณเตือนคอยล์เย็นอุณหภูมิต่ำผิดปกติ (Freeze Stat Alarm)
หนึ่งในสัญญาณแจ้งเตือนที่สำคัญในระบบ HVAC คือ อุณหภูมิคอยล์เย็นหรือตัวเครื่อง Air Handling Unit (AHU) ต่ำผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าน้ำในคอยล์เริ่มเข้าใกล้จุดเยือกแข็ง หากไม่มีการแก้ไขทันเวลา น้ำอาจแข็งตัวภายในคอยล์จนทำให้ท่อแตกและเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่ออุปกรณ์ โดยระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ BAS/BMS จะส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถหยุดการทำงานหรือปรับค่าการควบคุมก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นได้
2. สัญญาณเตือนหม้อไอน้ำร้อนเกินไป (High Temperature Boiler Alarm)
สัญญาณแจ้งเตือนเมื่อหม้อไอน้ำหรือบอยเลอร์ (Boiler) มีอุณหภูมิสูงเกินกว่าค่าที่กำหนดไว้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความผิดปกติในการทำงานอาจเกิดจากระบบควบคุมความร้อนขัดข้อง หรือปั๊มน้ำหล่อเย็นทำงานผิดพลาด ซึ่งหากบอยเลอร์ร้อนจัดจนเกิดแรงดันเกินขีดจำกัด อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือการระเบิดของหม้อไอน้ำหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที
3. สัญญาณเตือนปริมาณสารทำความเย็นในระบบชิลเลอร์ต่ำกว่าปกติ (Chiller Low Refrigerant Alarm)
สัญญาณแจ้งเตือนเมื่อปริมาณสารทำความเย็น (Refrigerant) ต่ำกว่าปกติ ส่งผลให้ระบบทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดการสิ้นเปลืองพลังงาน และอาจทำให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย โดยสัญญาณเตือนที่พบได้ ได้แก่
- ความดันต่ำผิดปกติที่เซ็นเซอร์วัดแรงดัน
- อุณหภูมิในระบบไม่ลดลงตามต้องการ
- คอมเพรสเซอร์ทำงานนานกว่าปกติหรือทำงานถี่
- ระบบตัดการทำงานหรือแสดงรหัสแจ้งเตือน
4. สัญญาณเตือนตรวจพบควันในระบบท่อลมหรือ AHU (Air Handler Smoke Detector Alarm)
สัญญาณเตือนเมื่อเครื่องตรวจจับควัน (Smoke Detector) ตรวจพบควันในท่อลมของเครื่องส่งลมเย็น : Air Handling Unit (AHU) ซึ่งควันสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบท่อส่งลม โดยระบบ BAS/BMS จะส่งสัญญาณเตือนไปยังระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ทันที โดยสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้น ได้แก่
- เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น
- ระบบแจ้งเตือนเพลิงไหม้แสดงจุดที่พบควัน
- เครื่อง AHU ถูกสั่งให้หยุดการทำงานอัตโนมัติเพื่อป้องกันการกระจายควัน
- ระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ (BAS/BMS) แสดงสถานะฉุกเฉินและบันทึกเหตุการณ์
5. สัญญาณเตือนไม่มีการไหลของอากาศในท่อลม (Loss of Air Flow Alarm)
สัญญาณแจ้งเตือนเมื่อระบบไม่พบการไหลของอากาศ (Airflow) อาจเกิดจากพัดลมเสีย แดมเปอร์ติดขัด หรือท่ออุดตัน ส่งผลให้อากาศไม่หมุนเวียนและเกิดความร้อนสะสม โดยสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้น ได้แก่
- สัญญาณแจ้งเตือนจากเซ็นเซอร์ตรวจจับการไหลของอากาศ
- ระบบ BAS/BMS แจ้งว่าไม่มีการไหลของลมในโซนที่กำหนด
- อุณหภูมิในพื้นที่ปรับอากาศสูงผิดปกติ
- ระบบตัดการทำงานบางส่วนเพื่อป้องกันความเสียหาย
6. สัญญาณเตือนน้ำคอนเดนเสทล้น (Condensate Overflow Alarm)
สัญญาณเตือนเมื่อถาดรองน้ำล้นจากการกลั่นตัว (Condensate) ของไอน้ำ แสดงว่าท่อระบายน้ำอุดตันหรือปั๊มระบายน้ำเสียส่งผลให้น้ำสะสมจนล้นออกมา โดยสัญญาณเตือนที่พบบ่อย ได้แก่
- เซ็นเซอร์ตรวจจับระดับน้ำ ส่งสัญญาณเตือน
- ระบบ BAS/BMS แจ้งเตือนจุดที่เกิดน้ำล้น
- พบคราบน้ำหรือความชื้นสะสมรอบเครื่อง AHU หรือฝ้าเพดาน
- เกิดเชื้อรา กลิ่นอับ และความเสียหายต่ออาคาร เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
7. สัญญาณเตือนพัดลมระบายความร้อนทำงานผิดปกติ (Cooling Tower Fan Failure)
สัญญาณเตือนหากพัดลมในหอระบายความร้อน (Cooling Tower) ไม่ทำงาน ซึ่งอาจเกิดจากมอเตอร์เสียหรือระบบควบคุมขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนจากชิลเลอร์ได้ ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสม โดยสัญญาณเตือนที่พบบ่อย ได้แก่
- ระบบ BAS/BMS หรือแผงควบคุมแจ้งเตือนพัดลมหยุดทำงาน
- อุณหภูมิน้ำร้อนขาออกสูงผิดปกติ
- ชิลเลอร์ตัดการทำงานอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหาย
- มีเสียงหรือกลิ่นผิดปกติจากบริเวณหอระบายความร้อน
8. สัญญาณเตือนความดันในท่อลมผิดปกติ (Duct Static Pressure Alarm)
สัญญาณแจ้งเตือนหากแรงดันในท่อลมสูงหรือต่ำกว่าค่าที่กำหนด ระบบจะตรวจจับได้จากเซ็นเซอร์วัดแรงดันสถิต (Static Pressure) ซึ่งอาจเกิดจากพัดลมมีปัญหา ท่อลมรั่ว หรือเกิดการอุดตัน โดยสัญญาณเตือนที่พบ ได้แก่
- ระบบ BAS/BMS แจ้งเตือนแรงดันผิดปกติ (สูง/ต่ำเกินเกณฑ์)
- ปริมาณลมที่จ่ายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ลดลงหรือไม่สม่ำเสมอ
- สมดุลการไหลของอากาศผิดปกติ อุณหภูมิควบคุมไม่ได้
- อาจเกิดเสียงผิดปกติจากท่อลมหรือพัดลม
9. สัญญาณเตือนแรงดันน้ำต่ำในระบบหมุนเวียนน้ำ (Low Water Pressure in Hydronic Loop)
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแรงดันน้ำในระบบหมุนเวียนน้ำ (Hydronic Loop) ต่ำกว่าค่าปกติ อาจเกิดจากน้ำรั่ว ปั๊มน้ำเสีย หรือมีอากาศแทรกในระบบ ส่งผลให้การไหลเวียนน้ำไม่เพียงพอ ปั๊มทำงานหนัก และระบบทำความเย็น/ร้อนทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยสัญญาณเตือนที่พบ ได้แก่
- เซ็นเซอร์แรงดันน้ำส่งสัญญาณเตือนผ่าน BMS
- อัตราการไหลของน้ำลดลง
- อุณหภูมิในระบบไม่คงที่หรือควบคุมไม่ได้
- ปั๊มมีเสียงดังหรือทำงานต่อเนื่องผิดปกติ
10. สัญญาณเตือนแดมเปอร์ขัดข้อง (Outside Air Damper Stuck)
สัญญาณเตือนหากแผ่นแดมเปอร์ที่ควบคุมการนำลมภายนอกเข้าสู่ระบบปรับอากาศค้างหรือทำงานผิดปกติ อาจทำให้ลมภายนอกเข้าสู่ระบบมากหรือน้อยเกินไป ส่งผลกระทบต่อการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และคุณภาพอากาศ (IAQ) รวมถึงสิ้นเปลืองพลังงาน โดยสัญญาณเตือนที่พบ ได้แก่
- ระบบ BAS/BMS แจ้งเตือนตำแหน่งแดมเปอร์ผิดปกติ
- ค่าความชื้นและอุณหภูมิภายในอาคารแปรปรวน
- คุณภาพอากาศภายในลดลง เช่น มี CO₂ สะสมเกินเกณฑ์
- ระบบปรับอากาศทำงานหนักและกินพลังงานมากขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง : MEP Academy (2025).
10 Deadly HVAC Alarms You Should NEVER Ignore, จาก https://youtu.be/tYimNOn4ZFU?si=j2OSL8Jyc4tn3S6X
“CAI Engineering” ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอาคารอัจฉริยะ BAS/BMS

อาคารยุคใหม่ล้วนหันมาใช้ “ระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ BAS/BMS” เพื่อบริหารจัดการระบบปรับอากาศ HVAC ระบบไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน เพื่อช่วยในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และความปลอดภัยในอาคาร
“CAI Engineering” ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการออกแบบระบบปรับอากาศ HVAC สำหรับอาคาร โดยการเลือกใช้ระบบ BAS/BMS ในการควบคุมระบบ HVAC จากแบรนด์ “SAUTER” สำหรับอาคารของคุณ เพราะการนำ BAS/BMS มาประยุกต์ใช้เข้ากับระบบ HVAC นั้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานอาคาร นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และต้นทุนในการบำรุงรักษาได้อีกด้วย
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
- BAS/BMS และบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบปรับอากาศ HVAC ในอาคาร
- เจาะลึกโครงสร้างพื้นฐานของระบบ BAS/BMS ในการควบคุมระบบปรับอากาศ HVAC
ปรึกษาเรื่องการสร้างห้องคลีนรูม
หรือติดตามความรู้เรื่องนวัตกรรมการปรับอากาศ
Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb
E-mail : veeraya@caiengineering.com