ต้นทุนในการก่อสร้างห้องคลีนรูม (Cleanroom) สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ส่วน เช่น วัสดุก่อสร้าง แรงงาน อุปกรณ์และเครื่องมือ ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งต้นทุนค่าก่อสร้างจะแตกต่างกันนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยการประเมินราคาในการออกแบบและก่อสร้างห้องคลีนรูมจะต้องจัดทำโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพื่อจัดการต้นทุนในการก่อสร้างให้ได้มาตรฐาน และตอบโจทย์การใช้งาน ให้มีราคาที่ยุติธรรมและคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
โดย BIM ย่อมาจาก “Building Information Modeling” เป็นกระบวนการใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสร้างและจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ ก่อสร้าง และการดำเนินโครงการสถาปัตยกรรม ด้วยเทคโนโลยี BIM ซึ่งข้อมูลและแบบจำลองของโครงการสามารถถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำ ซึ่งช่วยในการตัดสินใจ การจัดการ และการควบคุมโครงการในระยะเวลาต่าง ๆ โดย BIM สามารถช่วยในงานออกแบบและก่อสร้างได้ดังนี้
- การออกแบบ: BIM ช่วยให้ผู้ออกแบบสามารถสร้างแบบจำลองเสมือนจริงของโครงการ 3 มิติ หรือแบบจำลองรายละเอียดสูงขึ้นได้ ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมและความสัมพันธ์ของส่วนต่าง ๆ ของโครงการ
- การวิเคราะห์: ผู้ใช้ BIM สามารถดำเนินการวิเคราะห์และทดสอบความคล่องตัวของแบบจำลอง เช่น การทนต่อแรงลม การกระจายแสง หรือความปลอดภัยได้
- การจัดการข้อมูล: BIM ช่วยในการจัดเก็บและจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัสดุ ราคา และระยะเวลาในการก่อสร้าง
- การประมาณราคา: แบบจำลอง BIM สามารถสร้างรายการวัสดุและการประมาณราคาอย่างอัตโนมัติจากแบบจำลองที่มีความสมจริง
- การจัดการโครงการ: แบบจำลอง BIM ช่วยในการจัดการและควบคุมการดำเนินงาน การประเมินความคล่องตัว และการติดตามความคืบหน้าของโครงการ
” BIM ” สามารถช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างได้ เนื่องจากการสร้างแบบจำลอง BIM จะช่วยในการประเมินราคาและวางแผนการจัดซื้อวัสดุอย่างมีระบบและแม่นยำ
การนำเทคโนโลยี BIM มาใช้ในการก่อสร้างห้องคลีนรูม
BIM สามารถนำมาใช้เพื่อการออกแบบและก่อสร้างห้องคลีนรูม (Cleanroom) และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการก่อสร้างห้องคลีนรูมได้ เนื่องจาก BIM ช่วยในการสร้างและจัดการแบบจำลองที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทำให้สามารถวางแผนและประเมินต้นทุนได้แม่นยำมากขึ้น โดยสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างห้องคลีนรูมได้ดังต่อไปนี้
- ออกแบบและวางแผน: โดยสามารถใช้ BIM สร้างแบบจำลองเสมือนจริงของห้องคลีนรูม ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดของโครงสร้าง วัสดุ และระบบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าใจความต้องการและข้อกำหนดของห้องคลีนรูม
- การประเมินความเหมาะสม: แบบจำลองสามารถวิเคราะห์ความเหมาะสมของการออกแบบเทียบกับข้อกำหนดของห้องคลีนรูมได้ เช่น การควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และการกรองอากาศ เป็นต้น
- ระบบควบคุมและการจัดการสิ่งแวดล้อม: สามารถใช้ BIM ในการวางแผนและจัดการระบบสิ่งแวดล้อมภายในห้องคลีนรูมได้ เช่น ระบบการกรองอากาศ ระบบควบคุมความชื้น และระบบจ่ายไฟ เป็นต้น
- การประเมินและการปรับปรุง: ด้วยข้อมูลจากแบบจำลอง BIM สามารถตรวจสอบและปรับปรุงการออกแบบห้องคลีนรูมเพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดและมีประสิทธิภาพสูงสุด
- การติดตามและการดำเนินการ: หลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น แบบจำลอง BIM ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามและดำเนินการต่อเนื่อง ช่วยในการบำรุงรักษาและปรับปรุงห้องคลีนรูมในระยะยาว
การใช้ BIM ในการประมาณต้นทุนการก่อสร้างห้องคลีนรูม
BIM ช่วยให้สามารถวางแผนและออกแบบห้องคลีนรูมได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยในการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดการแก้ไขแบบและวัสดุก่อสร้างในการสร้างห้องคลีนรูม โดยนำมาใช้ในการประมาณต้นทุนก่อสร้างได้ดังนี้
- สร้างแบบจำลองเสมือนจริง: ทำการสร้างแบบจำลองของโครงการก่อสร้างในรูปแบบ 3 มิติที่เป็นข้อมูลจำเพาะทั้งที่เกี่ยวกับวัสดุ แรงงาน และอุปกรณ์
- เพิ่มข้อมูลต้นทุน: ผู้ใช้ BIM สามารถเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับราคาและต้นทุนในแต่ละส่วนของแบบจำลอง เช่น ราคาวัสดุ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้
- การประมาณราคาอัตโนมัติ: โดยใช้ข้อมูลต้นทุนที่ถูกเพิ่มเข้าไปในแบบจำลอง ระบบ BIM สามารถสร้างรายงานประมาณราคาอัตโนมัติที่มีความแม่นยำ
- การวิเคราะห์ต้นทุน: ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และตรวจสอบต้นทุนในระยะต่าง ๆ ของโครงการ ทำให้เข้าใจค่าใช้จ่ายและหาทางปรับปรุงเพื่อลดต้นทุนในการก่อสร้างได้
- การปรับแก้แผน: หากต้องการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงแผนการก่อสร้าง การมีแบบจำลอง BIM ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ผลกระทบต่อต้นทุนและทำการปรับปรุงได้เร็วยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของ BIM ในการบริหารจัดการต้นทุนก่อสร้าง
ประโยชน์ของการนำ BIM มาใช้ในการก่อสร้าง โดยสามารถช่วยลดต้นทุนก่อสร้างได้หลายวิธี ดังนี้
- ประมาณราคาและการจัดซื้อ: แบบจำลอง BIM ช่วยประมาณราคาและวางแผนการจัดซื้อวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ
- ความแม่นยำของแผนการก่อสร้าง: การใช้ BIM ลดความผิดพลาดและการปรับแก้ไขในขั้นตอนต่าง ๆ ของการก่อสร้าง
- การประสานงาน: ช่วยในการประสานงานระหว่างทีมงานและลดการซ้ำซ้อนในการทำงาน
- ความรู้สึกสมจริง: ทำให้ทุกคนในทีมมีความเข้าใจโครงการอย่างละเอียดและสมจริงมากยิ่งขึ้น
- การจัดการเวลา: BIM สามารถช่วยในการวางแผนและจัดการเวลาในการก่อสร้างได้
- การปรับปรุงและปรับตัว: ข้อมูลแบบจำลองที่อัปเดตและเป็นเรียลไทม์ช่วยในการตรวจสอบและปรับปรุงโครงการ
- การประหยัด: ลดการใช้วัสดุที่ไม่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร
- ความปลอดภัย: การประมาณการและการวางแผนที่แม่นยำช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการก่อสร้าง
CAI Engineering ผู้นำเทคโนโลยี BIM มาใช้ในการสร้างห้องคลีนรูม
ในยุคเทคโนโลยี 4.0 CAI Engineering ได้มีการนำเทคโนโลยี BIM มาใช้ในทุกงานเพื่อการสร้างห้องคลีนรูม เช่น การใช้ BIM ในการออกแบบ เพื่อให้คนในทีมมีความเข้าใจและเห็นภาพต่าง ๆ ได้ตรงกัน เพื่อลดความผิดพลาดและต้นทุนในการก่อสร้างห้องคลีนรูม และนอกจากเทคโนโลยี BIM แล้ว เรายังมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้โนโครงการต่าง ๆ เช่น BAS เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถประหยัดพลังงานได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากต้องการห้องคลีนรูมที่ตอบโจทย์ มีประสิทธิภาพและทันสมัย ต้อง CAI Engineering