Data center ระบบจัดเก็บข้อมูลในยุคอุตสาหกรรม 4.0_CAI

Data center ระบบจัดเก็บข้อมูลในยุคอุตสาหกรรม 4.0

ดาต้า (Data) หรือข้อมูล ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทั้งองค์กรขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่จำเป็นต้องมีการจัดเก็บและประมวลผลได้แบบเรียลไทม์ เนื่องจากดาต้าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาองค์กรตลอดจนพยากรณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ จึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบข้อมูลกลางที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้แบบเรียลไทม์มากที่สุด จึงมีการพัฒนา Data Center ขึ้นเพื่อรองรับปริมาณข้อมูลมหาศาลในยุคอุตสาหกรรม 4.0 อย่างเช่นปัจจุบันนี้

ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ Data Center คืออะไร _CAI

ทำความรู้จักศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ Data Center

Data Center (ดาต้า เซ็นเตอร์) หรือศูนย์ข้อมูล เป็นศูนย์กลางของพื้นที่ที่ใช้เป็นศูนย์คอมพิวเตอร์สำหรับวางระบบเครือข่ายที่สามารถส่งออกและรับข้อมูลดาต้าจำนวนมากได้ ซึ่งประกอบไปด้วย

1. สิ่งอำนวยความสะดวก (Facility)

อาคารสถานที่ติดตั้งอุปกรณ์ระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ใช้สอยของอุปกรณ์ไอที พื้นที่ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลดาต้าได้แบบเรียลไทม์ การควบคุมความปลอดภัย การวางโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ของ Data Center รวมถึงการควบคุมพื้นที่และสภาพแวดล้อมให้อยู่ในอุณหภูมิหรือความชื้นที่เฉพาะเจาะจง เป็นต้น

2. การจัดเก็บข้อมูลขององค์กร (Enterprise data storage)

อุปกรณ์และซอฟต์แวร์สำหรับดำเนินงานด้านไอที ซึ่งประกอบไปด้วยระบบข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรและหน่วยเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา รวมถึงอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Servers, Storage Subsystems, Networking Switches, Routers, Firewalls, Cabling and Rhysical racks ฯลฯ

3. การรองรับโครงสร้างพื้นฐานของอุปกรณ์ (Support infrastructure)

อุปกรณ์ที่เอื้อต่อการรักษาความปลอดภัยและความพร้อมในด้านการใช้งาน เช่น

  • Uninterruptible Power Sources (UPS)
  • แบตเตอรีหรือเครื่องจ่ายไฟฟ้าสำรอง
  • ระบบควบคุมสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องปรับอากาศในห้องคอมพิวเตอร์ (CRAC)
  • ระบบระบายและปรับอากาศ (HVAC) และระบบไอเสีย
  • ระบบรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ เช่น ระบบไบโอเมตริก (Biometrics) และระบบเฝ้าระวังวิดีโอ เป็นต้น

4. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน (Operation officer)

บุคลากรที่ทำหน้าที่บำรุงรักษา ตรวจสอบอุปกรณ์ไอทีและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนดขึ้นโดยสถาบันกลาง เช่น Uptime Institute, Building Industry Consulting Services International (BICSI) Telecommunications Industry Association (TIA) และ International Organization for Standardization (ISO) เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

มาตรฐาน Data Center แบ่งเป็นกี่ระดับ

มาตรฐาน Data Center เรียกว่า Tier ใช้บ่งบอกถึงความสามารถในการให้บริการของ Data Center โดยแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้

  • Tier 1 (Basic Capacity)
    Tier ขั้นพื้นฐานของ Data Center ซึ่งระบบสามารถล่มหรือไม่สามารถใช้งานได้ไม่เกิน 28.8 ชั่วโมง โดยจะส่งผลกระทบทั้งอุปกรณ์รวมถึงในขณะซ่อมแซมระบบ Data Center ด้วย ส่วนของจำกัดของ Data Center ระดับนี้จะไม่มีพื้นยก (Raised floors) สำหรับระบายอากาศ, ไม่มีระบบไฟฟ้าสำรอง (Redundant power supplies) และ UPS
  • Tier 2 (Redundant Capacity)
    Tier ที่มีอุปกรณ์สำรองบางส่วนในระบบไฟฟ้า สามารถล่มหรือไม่สามารถใช้งานได้ไม่เกิน 22 ชั่วโมง มีคุณสมบัติคล้ายกับ Tier 1 แต่จะมีอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าบางส่วน รวมถึงมีระบบระบายอากาศและระบบทำความเย็น (Partial redundant) เพิ่มเข้ามาแต่ไม่ได้เป็นแบบ Fully Redundant
  • Tier 3 (Concurrently maintenance : DC)
    Tier ที่รวมคุณสมบัติทั้งของ Tier 1 และ Tier 2 เข้าด้วยกัน แต่ในการซ่อมแซมสามารถถอดอุปกรณ์แล้วเปลี่ยนใหม่ได้โดยไม่กระทบกับ Data Center สามารถ เกิดการล่มของระบบหรือไม่สามารถใช้งานได้ไม่เกิน 1.6 ชั่วโมง
  • Tier 4 (Fault Tolerance)
    Tier ระดับ Fully Redundant ที่มีทั้งระบบไฟฟ้า และระบบทำความเย็นแยกเป็น 2 ชุด หากมีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเสีย ระบบจะยังคงทำงานได้เป็นปกติ สามารถเกิดการล่มของระบบหรือไม่สามารถใช้งานได้ไม่เกิน 24 นาที
  • Tier 5 (Data Center)
    มาตรฐาน Data Center ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ Tier 4 แต่มีการนำเทคโนโลยีอื่นมาใช้เพิ่มเติม เช่น เครื่องตรวจจับมลพิษทางอากาศ ชั้นวางเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัย และการตรวจสอบระบบพลังงาน นิยมใช้ในโครงการไฟฟ้าในท้องถิ่นและพลังงานหมุนเวียนรวมไปถึงธุรกิจ สถาบัน หรือองค์กรที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
Data Center สำคัญอย่างไรในยุคอุตสาหกรรม 4.0_CAI

Data Center สำคัญอย่างไรในยุคอุตสาหกรรม 4.0

ระบบข้อมูลกลางจาก Data Center เรียกได้ว่ามีความสำคัญต่อการการจัดเก็บ ประมวลผล รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลและแอปพลิเคชันต่างๆ ช่วยให้องค์กรสามารถประมวลผลข้อมูล (Data Processing) จัดเก็บ (Storage) สื่อสาร (Communications) และสามารถเข้าถึงข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบระบายความร้อน ระบบปรับอากาศ ตลอดจนการเข้าถึงความปลอดภัยของเครือข่ายและเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) เพื่อเชื่อมต่อการทำงานและดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ระบบข้อมูลกลางจาก Data Center ยังสามารถเชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เช่น

  • ใช้อธิบายปัญหาหรือปรากฏการณ์ (Descriptive Analytics)
  • ใช้พยากรณ์สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น (Predictive Analytics)
  • ใช้วิเคราะห์และคาดการณ์ถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (Prescriptive Analytics) เพื่อปรับตัวและรับมือได้อย่างทันท่วงที

Data Center จึงเป็นระบบที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย โดยเฉพาะในยุคอุตสาหกรรม 4.0 และกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในปริมาณมาก เช่น กลุ่มดิจิทัลและไอที กลุ่มสาธารณสุข กลุ่มอุตุนิยมวิทยา กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มวิศวกรรม ก่อสร้างและจัดการอาคาร เป็นต้น

ในปัจจุบันซึ่งเป็นยุคแห่งเทคโนโลยีและข้อมูลดาต้าที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนองค์กร รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการดำเนินงาน CAI Engineering ผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและสร้างห้องคลีนรูมในระดับอุตสาหกรรม ได้นำเทคโนโลยี BIM ที่ทันสมัยผนวกกับระบบ BMS/BAS แล้วจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของ Big Data เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และจำลองการใช้ระบบต่างๆ ในอาคาร ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ตลอดจนถึงขั้นตอนมอนิเตอร์ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ เพื่อจัดการทรัพยากรและใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและก้าวสู่โลกแห่งอุตสาหกรรม 4.0

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า