DOAS (Dedicated Outdoor Air Systems) คือ ระบบที่ออกแบบมาเพื่อจัดการอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก โดยเฉพาะแยกจากระบบปรับอากาศหลัก ช่วยให้อาคารได้รับการระบายอากาศอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานสากล เช่น ASHRAE Standard 62.1 ซึ่งระบุปริมาณอากาศบริสุทธิ์ที่ต้องจ่ายเข้าสู่พื้นที่ เพื่อรักษาคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ)
ดังนั้นจึงต้องมีข้อกำหนดในการออกแบบระบบและอุปกรณ์ประกอบของ DOAS โดยเฉพาะ สำหรับวิศวกรผู้ออกแบบระบบปรับอากาศ รวมถึงการดำเนินงานและการบำรุงรักษาให้สอดคล้องกับ “มาตรฐาน ASHRAE” เพื่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ที่ดีสำหรับผู้ใช้งานอาคารที่ได้ทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุด
ทำไมต้องเลือกใช้เครื่องเติมอากาศ DOAS
คุณสมบัติหลักของ DOAS (Dedicated Outdoor Air Systems) ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศภายในอาคาร มีดังต่อไปนี้
- เติมอากาศบริสุทธิ์โดยเฉพาะ: แยกจากระบบปรับอากาศหลัก ช่วยให้อาคารได้รับอากาศบริสุทธิ์ที่สะอาดและควบคุมได้
- ควบคุมความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ: ลดความชื้นส่วนเกินก่อนส่งเข้าพื้นที่ใช้งาน ช่วยป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับ
- ควบคุมปริมาณอากาศอย่างแม่นยำ: ปรับปริมาณลมตามโหลดจริง ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ASHRAE เพื่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ที่ดี
- ช่วยลดภาระของระบบ HVAC หลัก: เนื่องจาก DOAS แยกภาระการจัดการอากาศบริสุทธิ์ออกไป จึงช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศรวม
- ประหยัดพลังงาน: ระบบ DOAS ออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างเหมาะสม เช่น ใช้ระบบแลกเปลี่ยนพลังงาน (Heat Recovery System)
องค์ประกอบของเครื่องเติมอากาศ DOAS
ระบบ DOAS ประกอบด้วย 5 ส่วนหลักที่ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร ดังนี้
- ระบบกรองอากาศ (Air Intake & Filtration): ดึงลมจากภายนอกและทำการกรองฝุ่นและมลพิษให้ได้อากาศบริสุทธิ์
- ระบบแลกเปลี่ยนพลังงาน (Heat Recovery): ลดภาระการปรับอุณหภูมิด้วยการแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างลมเข้าและลมออก
- คอยล์ทำความเย็น/ความร้อน (Cooling/Heating Coil): ปรับอุณหภูมิของอากาศบริสุทธิ์ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม
- ระบบลดความชื้น (Dehumidification): ควบคุมความชื้นให้เหมาะสม ป้องกันเชื้อราและความอับชื้น
- พัดลมจ่ายลมและระบบควบคุม (Supply Fan & Control): การส่งลมที่ปรับสภาพแล้วเข้าสู่พื้นที่ พร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ
มาตรฐาน ASHRAE คืออะไร? สำคัญกับ DOAS อย่างไร

“ASHRAE” คือมาตรฐานหลักที่วิศวกรใช้ในการออกแบบระบบ DOAS เพื่อให้ได้ระบบระบายอากาศที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง ตัวอย่างมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น “ASHRAE 62.1” หรือ Ventilation for Acceptable Indoor Air Quality การกำหนดปริมาณอากาศบริสุทธิ์ขั้นต่ำที่ต้องจ่ายต่อคนหรือพื้นที่ เพื่อให้คุณภาพอากาศภายในอาคารเหมาะสมกับการอยู่อาศัยหรือทำงาน
ข้อกำหนดและการออกแบบ DOAS ตาม ASHRAE
ข้อกำหนดในการออกแบบเครื่องเติมอากาศ DOAS (Dedicated Outdoor Air System) ตามมาตรฐาน ASHRAE มีดังนี้
- การคำนวณขนาดของเครื่องเติมอากาศ
ต้องพิจารณาตามมาตรฐาน ASHRAE 62.1 เพื่อให้ปริมาณอากาศบริสุทธิ์เพียงพอต่อจำนวนคนและประเภทการใช้งานพื้นที่ และคำนวณจากอัตราการระบายอากาศขั้นต่ำ (cfm/person และ cfm/พื้นที่) รวมกับค่า Ventilation Efficiency (Ev)
- องค์ประกอบของเครื่องเติมอากาศ
เครื่อง DOAS ที่มีประสิทธิภาพจะประกอบด้วยอุปกรณ์สำคัญ เช่น พัดลมดูด/เป่าอากาศ ชุดกรองอากาศ (ตามมาตรฐาน MERV) ชุดควบคุมอุณหภูมิ (Cooling/Heating Coil) ระบบควบคุมความชื้น (Humidifier/Dehumidifier) และระบบนำพลังงานกลับมาใช้ (Energy Recovery Ventilator – ERV/HRV)
- รูปแบบของเครื่องเติมอากาศ
DOAS สามารถออกแบบได้หลากหลายรูปแบบตามลักษณะการใช้งานและพื้นที่อาคาร เช่น แบบรวมกับ AHU (รวมอากาศภายในและอากาศนอก) แบบแยกอิสระ (DOAS โดยเฉพาะ) และแบบแนวนอน/แนวตั้ง/แขวนใต้ฝ้า แล้วแต่พื้นที่ติดตั้ง
- การนำพลังงานกลับมาใช้ (Energy Recovery)
ตามมาตรฐาน ASHRAE 90.1 หากอัตราส่วนอากาศนอกสูง จำเป็นต้องมี ERV หรือ HRV เพื่อถ่ายเทพลังงานความร้อน/ความชื้นจากอากาศทิ้งไปยังอากาศใหม่ และช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศและประหยัดพลังงาน
- การควบคุมความชื้น (Humidity Control)
DOAS ที่ดีต้องควบคุมความชื้นให้เหมาะสมกับสภาวะความสบายและป้องกันเชื้อรา โดยต้องควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ให้อยู่ในช่วง 30–60% RH และใช้ชุดลดความชื้น (Cooling coil + Reheat) หรือเครื่องลดความชื้นโดยเฉพาะที่มีความจำเป็นในพื้นที่ที่ต้องควบคุมคุณภาพอากาศ เช่น ห้องแล็บ โรงพยาบาล เป็นต้น
- การออกแบบระบบ (System Design)
การออกแบบระบบ DOAS ให้ทำงานแยกจากระบบทำความเย็นหลัก เพื่อควบคุมอากาศบริสุทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้ร่วมกับ VAV Terminal Units หรือระบบแปรผันเพื่อการประหยัดพลังงาน
การกำหนดค่าอุปกรณ์ DOAS
การกำหนดค่าอุปกรณ์ของระบบ DOAS (Dedicated Outdoor Air System) มีความสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบให้สามารถเติมอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างแม่นยำ ควบคุมความชื้นได้ดี และทำงานร่วมกับระบบปรับอากาศหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีการกำหนดค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ดังนี้
- อุณหภูมิอากาศเติม: 16–18 °C → ควบคุมความชื้นได้โดยไม่หนาวเกินไป
- ความชื้นสัมพัทธ์ (RH): ≤ 55% → ลดความชื้นในห้อง
- Dew Point อากาศเติม: 9–12 °C → ให้ลมเติมดูดความชื้นส่วนเกิน
- Latent/Moisture Load: คำนวณจากคน + การระบายอากาศ → กำหนดขนาดระบบ
- ความดันลมจ่าย: +50 ถึง +150 Pa → ป้องกันลมภายนอกไหลย้อน
- อัตราการไหลลม: ตามมาตรฐาน ASHRAE + เผื่อ latent load
- Humidity Ratio (w): ≤ 8 g/kg → คุมระดับความชื้นรวม
- Set-point ควบคุม: คอยล์ทำงานต่ำกว่า dew point ห้อง 2–3 °C → ประหยัดพลังงาน
การดำเนินงานและการบำรุงรักษา DOAS
การเดินเครื่องและการทดสอบระบบหลังการติดตั้งเครื่องเติมอากาศ DOAS เพื่อให้ระบบทำงานเสถียร ประหยัดพลังงาน และอากาศคุณภาพดีตลอดเวลา
- เดินเครื่อง: ตรวจการติดตั้ง เดินระบบตามลำดับ และตั้งค่า Set-point ให้เหมาะสม
- ทดสอบระบบ: วัดลม อุณหภูมิ RH ความดัน เพื่อตรวจประสิทธิภาพจริง
- บันทึกข้อมูล: เก็บ Log ค่าต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงการทำงาน
- บำรุงรักษา: ล้างแผ่นกรองทุก 1–3 เดือน หมั่นตรวจคอยล์ Drain และท่อทุก 6 เดือน รวมถึงทำการสอบเทียบ Calibrate เซนเซอร์ปีละครั้ง
“Robatherm” แบรนด์เครื่องเติมอากาศที่ CAI Engineering ไว้วางใจ

CAI Engineering เลือกใช้เครื่องจ่ายลมเย็น Air Handling Unit (AHU) และระบบเติมอากาศ DOAS (Dedicated Outdoor Air Systems) จาก “Robatherm” แบรนด์ผู้ผลิตระบบเติมอากาศสัญชาติเยอรมนีที่ได้ใบรับรองมาตรฐานยุโรป Eurovent (Eurovent Certita Certification) จนเป็นผู้นำอันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรมปรับอากาศ เพื่อใช้ในการสร้างห้องคลีนรูมและระบบ HVAC สำหรับแต่ละโครงการให้แก่ลูกค้าของเรา
ปรึกษาเรื่องการสร้างห้องคลีนรูม
หรือติดตามความรู้เรื่องนวัตกรรมการปรับอากาศ
Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb
E-mail : veeraya@caiengineering.com