ในโลกนี้เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายในขณะที่คุณกำลังหายใจเข้าไปทุกวันนี้ ไม่ว่าจะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) หรือสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่ปะปนอยู่ในอากาศโดยเฉพาะมลพิษทางอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Pollution) ล้วนส่งผลกระทบให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมนุษย์เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณมากหรือสะสมเข้าสู่ร่างกายเป็นระยะเวลานาน
การรักษาและปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารจึงกลายเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้ในยุคปัจจุบันนี้ จึงได้ถือกำเนิดทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่าง “เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator)” ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีอากาศบริสุทธิ์ภายในอาคาร แต่ยังช่วยลดภาระการใช้พลังงานในการปรับอากาศให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมอีกด้วย
โดยเมื่อพูดถึงการเลือกเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความยั่งยืนอย่าง เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพภายในอาคาร พร้อมยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและรักษาประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นในบทความนี้เรา CAI Engineering จะพาคุณไปสำรวจว่าเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ หรือระบบแลกเปลี่ยนอากาศ ERV คืออะไร และทำไมมันถึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารของคุณกัน
เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV คืออะไร
เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) คือ ระบบระบายอากาศที่ช่วยแลกเปลี่ยนความร้อนและความชื้นระหว่างอากาศภายในและภายนอกอาคาร โดยดึงอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนอากาศเก่า พร้อมถ่ายโอนพลังงานความร้อนหรือความเย็นจากอากาศที่ปล่อยออก เพื่อช่วยลดการสูญเสียพลังงานและรักษาสมดุลความชื้นในอาคาร เหมาะสำหรับการเพิ่มคุณภาพอากาศและลดค่าใช้จ่ายพลังงานในบ้านหรืออาคาร
หลักการทำงานของระบบ ERV (Energy Recovery Ventilation)
หลักการทำงานของระบบ ERV (Energy Recovery Ventilation) มีดังนี้
- การดูดอากาศใหม่ (Fresh Air Intake) : ระบบดึงอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกอาคารผ่าน ตัวกรองอากาศ (Air Filter) เพื่อกำจัดฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และสารก่อภูมิแพ้ก่อนส่งเข้าภายใน
- การดูดอากาศเก่า (Exhaust Air Removal) : อากาศเก่าที่ถูกใช้งานแล้วภายในอาคารจะถูกดูดออกเพื่อระบายสู่ภายนอก
- การแลกเปลี่ยนพลังงาน (Energy Exchange) : อากาศใหม่และอากาศเก่าผ่านแผ่นแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger) ซึ่งช่วยถ่ายเทพลังงานความร้อนหรือความเย็นระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยปรับอุณหภูมิของอากาศใหม่ให้ใกล้เคียงกับภายใน ลดภาระของระบบปรับอากาศ
- การควบคุมความชื้น (Humidity Control) : ระบบช่วยปรับสมดุลความชื้น โดยถ่ายเทความชื้นส่วนเกินออกไปพร้อมกับอากาศเก่า หรือเพิ่มความชื้นในอากาศใหม่ตามความเหมาะสม
- การจ่ายอากาศใหม่ (Fresh Air Supply) : อากาศใหม่ที่ผ่านการกรองและปรับอุณหภูมิจะถูกส่งเข้าสู่พื้นที่ภายในอาคาร ช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศและความสบายในการอยู่อาศัย
ความแตกต่างระหว่าง ERV และระบบระบายอากาศทั่วไป
- การฟอกอากาศ
- ระบบทั่วไป : ดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาโดยตรง อาจไม่มีการกรองที่ละเอียด
- ระบบ ERV : มีตัวกรองประสิทธิภาพสูง กำจัดฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้
- การแลกเปลี่ยนพลังงาน
- ระบบทั่วไป : ไม่ถ่ายเทพลังงาน อากาศใหม่เข้ามาโดยไม่มีการปรับอุณหภูมิ
- ระบบ ERV : แลกเปลี่ยนพลังงานความร้อน/ความเย็นระหว่างอากาศเก่าและใหม่ ลดภาระของเครื่องปรับอากาศ
- การควบคุมความชื้น
- ระบบทั่วไป : ไม่มีการควบคุมความชื้น อาจทำให้อากาศภายในแห้งหรือชื้นเกินไป
- ระบบ ERV : ควบคุมและปรับสมดุลความชื้นในอาคาร
- ประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน
- ระบบทั่วไป : ใช้พลังงานมากขึ้น เพราะระบบปรับอากาศต้องทำงานหนัก
- ระบบ ERV : ลดการใช้พลังงานได้ถึง 30-50% เพราะอากาศที่เข้าสู่ระบบมีการปรับอุณหภูมิล่วงหน้า
ข้อดีในการติดตั้งเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV
การติดตั้งเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) นอกจากจะช่วยให้มีอากาศบริสุทธิ์ในอาคารแล้ว ยังมาพร้อมกับข้อดีมากมายที่สามารถเพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในอาคารที่ต้องการการควบคุมอากาศและสภาพแวดล้อมภายในให้เหมาะสมกับการใช้งานต่าง ๆ เช่น อาคารสำนักงาน โรงงาน และบ้านพักอาศัย โดยมีข้อดีมากมายดังต่อไปนี้
- การฟอกอากาศ : กำจัดฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ และมลพิษ ช่วยให้อากาศสะอาดและปลอดภัย
- การแลกเปลี่ยนพลังงาน : ถ่ายเทพลังงานความร้อนหรือความเย็นจากอากาศเก่าไปยังอากาศใหม่ ลดภาระระบบปรับอากาศ
- การควบคุมความชื้น : ปรับสมดุลความชื้นในอาคาร ช่วยลดปัญหาอากาศแห้งหรือชื้นเกินไป
- ประหยัดพลังงาน : ลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศได้ถึง 30-50% ทำให้อาคารประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- การเพิ่มคุณภาพชีวิต : ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่สบาย ส่งเสริมสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานหรืออยู่อาศัย
ขอแนะนำบทความที่น่าสนใจ :
“CAI Engineering” ผู้นำด้านนวัตกรรมปรับอากาศสำหรับอาคาร
CAI Engineering ผู้นำด้านนวัตกรรมระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการดำเนินการของอาคาร โดยเฉพาะในด้านการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และคุณภาพอากาศภายในอาคาร
ด้วยการออกแบบและติดตั้งระบบปรับอากาศ HVAC สำหรับอาคารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือการติดตั้งระบบเติมอากาศ DOAS (Dedicated Outdoor Air System) และ AHU (Air Handling Unit) จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง robatherm ให้เหมาะสมในการใช้งานสำหรับอาคารหรือโครงการของคุณ
ปรึกษาเรื่องการสร้างห้องคลีนรูม
หรือติดตามความรู้เรื่องนวัตกรรมการปรับอากาศ
Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb
E-mail : veeraya@caiengineering.com
