HVAC Trend 2025 : ก้าวทันโลกนวัตกรรมปรับอากาศ ที่คนในวงการต้องรู้ !

HVAC Trend 2025 : ก้าวทันโลกนวัตกรรมปรับอากาศ ที่คนในวงการต้องรู้ !

เทคโนโลยี HVAC หรือนวัตกรรมปรับอากาศในปี 2025 กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีแนวโน้มสำคัญ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) การควบคุมจากระยะไกลผ่านเทคโนโลยี IoT หรือการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วย AI และ Machine Learning เป็นต้น ซึ่งผู้ที่อยู่ในวงการ HVAC ต้องปรับตัวให้ทันกับการพัฒนาเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดการใช้พลังงาน และเพื่อพัฒนาสินค้าและให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล

ในวันนี้เราจึงขอรวบรวมเทรนด์ HVAC System สำหรับปี 2025 ที่น่าสนใจมาให้คนในอุตสาหกรรมปรับอากาศดูกันว่ามีอะไรบ้างที่น่าจับตามอง

1. ปฏิวัติวงการปรับอากาศด้วย AI และ Machine Learning

การนำ AI และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ในระบบ HVAC สำหรับการพยากรณ์การใช้พลังงาน โดยการประมวลผลข้อมูลเพื่อทำนายความต้องการพลังงานในอนาคตและปรับระบบให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการตรวจสอบและบำรุงรักษา โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจจับความผิดปกติและแจ้งเตือนล่วงหน้า เพื่อปรับแต่งระบบปรับอากาศ HVAC โดยอัตโนมัติทำให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความสะดวกสบายของผู้ดูแลระบบปรับอากาศ

2. Smart HVAC System และการเชื่อมต่อเทคโนโลยี IoT

Smart HVAC หรือระบบปรับอากาศอัจฉริยะที่จะเชื่อมต่อระบบกับอุปกรณ์ IoT เพื่อให้สามารถควบคุมจากระยะไกล ตรวจสอบสถานะจริง และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยระบบจะเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เพื่อปรับอุณหภูมิ ความชื้น และการไหลของอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง โดยระบบจะสามารถทำนายรูปแบบการใช้งานและปรับตั้งค่าโดยอัตโนมัติเพื่อลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศและเพิ่มความสะดวกสบายได้

3. ผลักดันการใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สารทำความเย็นของระบบปรับอากาศมีผลกระทบโดยตรงต่อภาวะโลกร้อน (GWP) โดยสารทำความเย็นบางชนิด เช่น R-22 หรือ R-134a ที่มีค่า GWP หรือ Global Warming Potential สูงมีส่วนสำคัญในการทำลายชั้นโอโซนและเพิ่มการเกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้นการเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่าง R-290 (โปรเพน) หรือ R-32 ที่มีค่า GWP ต่ำกว่า จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยในการอนุรักษ์ชั้นโอโซน

4. การมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ)

Indoor Air Quality (IAQ) หรือคุณภาพอากาศภายในอาคารมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในอาคาร เนื่องจากอากาศที่มีคุณภาพดีจะช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อ IAQ ได้แก่ มลพิษทางอากาศภายในอาคาร การระบายอากาศที่ไม่ดี และสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งมีโซลูชันที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ IAQ เช่น “เครื่องเติมอากาศ DOAS” จาก Robatherm สามารถช่วยควบคุมการไหลของอากาศบริสุทธิ์ในอาคาร ลดมลพิษและรักษาคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นในพื้นที่ภายในอาคาร

 

ขอแนะนำบทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ : 

5. การบูรณาการแหล่งพลังงานหมุนเวียนร่วมกับ HVAC

การใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)  ในระบบปรับอากาศ HVAC เพื่อช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากแหล่งพลังงานที่ไม่ยั่งยืนและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตัวอย่างพลังงานหมุนเวียนที่สามารถนำมาใช้ในระบบ HVAC ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) ซึ่งสามารถใช้ในการผลิตไฟฟ้า หรือการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ที่ใช้ในการทำความร้อนหรือการระบายความร้อน โดยพลังงานเหล่านี้จะช่วยให้ระบบ HVAC มีประสิทธิภาพมากขึ้นและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

6. เทอร์โมสตัทอัจฉริยะและการควบคุมจากระยะไกล

เทอร์โมสตัทอัจฉริยะ (Smart Thermostat) ที่ควบคุมระบบ HVAC ผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมอุณหภูมิและการตั้งค่าได้จากระยะไกล เพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดพลังงาน ตัวอย่างเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น การสั่งงานด้วยเสียงผ่านระบบเช่น Alexa หรือ Google Assistant และการตั้งค่าตามกิจวัตรที่ผู้ใช้งานกำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

7. การก่อสร้างสมัยใหม่และระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ (BMS)

ระบบ Building Management System (BMS) ช่วยในการควบคุมและจัดการระบบ HVAC ในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถตรวจสอบและปรับการทำงานของระบบอัตโนมัติเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยระบบ BMS จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและลดต้นทุนในการดำเนินงาน เช่น การปรับอุณหภูมิและความชื้นตามสภาพการใช้งานจริงของอาคาร ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้

 

บทความเกี่ยวข้องเรื่องระบบ BAS/BMS ที่น่าสนใจ : 

“CAI Engineering” ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมปรับอากาศ

“CAI Engineering” ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมปรับอากาศ

CAI Engineering เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศและวิศวกรรมอาคาร ซึ่งเราสามารถนำเสนอโซลูชันที่ช่วยตอบโจทย์เทรนด์ HVAC ปี 2025 เช่น DOAS Plus+ จาก Robatherm ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศ และระบบ BAS/BMS จาก SAUTER ที่ช่วยบริหารจัดการพลังงานอาคารอย่างชาญฉลาด เรามุ่งมั่นพัฒนาและนำเสนอโซลูชันที่ทันสมัย เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในทุกโครงการอาคาร

 

ชมผลิตภัณฑ์อัจฉริยะจาก “SAUTER” ได้ที่นี่ : 

 

ปรึกษาเรื่องการสร้างห้องคลีนรูม

หรือติดตามความรู้เรื่องนวัตกรรมการปรับอากาศ

Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb

E-mail : veeraya@caiengineering.com

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า