ปัจจุบันวงการก่อสร้างบ้านและอาคารหลายแห่งทั่วโลกมีแนวโน้มเริ่มนำ Modular Construction หรือระบบการก่อสร้างแบบโมดูลสำเร็จรูปเข้ามาใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช่วยให้การก่อสร้างอาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น ช่วยลดต้นทุน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกันว่า Modular Construction หรือที่เรียกว่า Modular System คืออะไร และข้อดีอย่างไรบ้าง ตามไปอ่านรายละเอียดกันได้เลย
Modular Construction คืออะไร?

Modular Construction คือวิธีการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปที่ผลิตชิ้นส่วนอาคารในโรงงาน แล้วนำมาประกอบหน้างาน ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยลดระยะเวลาก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพของงานได้อีกด้วย โดยหลักการก่อสร้างหลัก ๆ มีดังนี้คือ การออกแบบและผลิตโมดูล การผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ การขนส่งไปยังหน้างาน การติดตั้ง ประกอบ และตรวจสอบความสมบูรณ์เรียบร้อย
รูปแบบการก่อสร้าง Modular System เป็นอย่างไร
Modular Construction มีส่วนประกอบหลัก ๆ เช่น โครงสร้าง ผนังพื้น หลังคา ระบบไฟฟ้า หน้าต่าง ประตู เป็นต้น ซึ่งมีกระบวนการก่อสร้างเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
- การออกแบบโมดูล : วางแผนโครงสร้างและระบบ
- การผลิตในโรงงาน : ประกอบชิ้นส่วนพร้อมติดตั้งระบบ
- การขนส่งไปหน้างาน : นำโมดูลไปยังไซต์ก่อสร้าง
- การติดตั้งและเชื่อมต่อ : ประกอบเป็นอาคารสมบูรณ์
- การตรวจสอบและเก็บรายละเอียด : ตรวจสอบโครงสร้างและงานระบบ
รูปแบบและประเภทของโมดูลที่ใช้ในการก่อสร้างมี ดังนี้
- 3D Modules : ห้องสำเร็จรูป อย่างโรงแรมอพาร์ตเมนต์
- 2D Modules : แผ่นผนัง พื้น บ้าน อาคารพาณิชย์
- Hybrid Modules : การผสมผสานระหว่าง 3D และ 2D อย่างโรงพยาบาล หรือศูนย์การค้า เป็นต้น
ความแตกต่างระหว่างการก่อสร้างทั่วไปและแบบโมดูลาร์

- ระยะเวลาก่อสร้าง
- ก่อสร้างทั่วไป: ใช้เวลานานเพราะต้องทำทุกขั้นตอนที่หน้างาน
- Modular Construction: เร็วขึ้น 30-50% เพราะผลิตโมดูลในโรงงานพร้อมติดตั้ง
- คุณภาพงาน
- ก่อสร้างทั่วไป: อาจมีความคลาดเคลื่อนจากสภาพแวดล้อมและแรงงาน
- Modular Construction: ควบคุมคุณภาพได้ดีกว่าเพราะผลิตในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้
- ความยืดหยุ่น
- ก่อสร้างทั่วไป: สามารถปรับเปลี่ยนแบบได้ระหว่างก่อสร้าง
- Modular Construction: มีข้อจำกัดเรื่องการเปลี่ยนแปลงหลังเริ่มผลิตโมดูล
- ค่าใช้จ่าย
- ก่อสร้างทั่วไป: ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้นจากความล่าช้าและต้นทุนแรงงาน
- Modular Construction: ควบคุมงบประมาณได้ดีและลดค่าแรง
- วัสดุเหลือใช้
- ก่อสร้างทั่วไป: มีของเสียจากวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก
- Modular Construction: ลดของเสียได้มากเพราะใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพในโรงงาน
ข้อดีและข้อจำกัดในการก่อสร้างอาคารและบ้านโมดูลาร์
ข้อดีของ Modular Construction
- ลดระยะเวลาก่อสร้าง : ผลิตโมดูลในโรงงานพร้อมติดตั้ง ลดเวลาหน้างาน 30-50%
- ควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า : ผลิตในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ ลดข้อผิดพลาดจากแรงงานและสภาพอากาศ
- ลดของเสียและต้นทุน : ใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ ลดเศษวัสดุ และช่วยควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น
ข้อจำกัดของ Modular Construction
- ข้อจำกัดด้านการออกแบบ : เปลี่ยนแปลงโครงสร้างยากหลังเริ่มผลิตโมดูล
- ข้อจำกัดด้านขนส่ง : โมดูลมีขนาดใหญ่ อาจมีข้อจำกัดด้านโลจิสติกส์และต้นทุนการขนส่ง
- ความต้องการพื้นที่ติดตั้ง : ต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับประกอบโมดูล และใช้เครนขนาดใหญ่ในการติดตั้ง
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
Modular Sandwich Panel : ผนังแซนวิชแบบโมดูลาร์ จาก WISKIND

Modular Sandwich Panel คือ ผนังสำเร็จรูปที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงซึ่งมีคุณสมบัติเด่น ได้แก่ การกันความร้อน กันเสียง และมีน้ำหนักเบา ซึ่งการเลือกใช้ WISKIND Sandwich Panel เป็นผนังแซนวิชที่เหมาะกับการก่อสร้างแบบโมดูลาร์ โดยมาพร้อมกับวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งานหนัก ติดตั้งง่าย ช่วยลดเวลาในการติดตั้งและการปรับเปลี่ยนและประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกและประหยัดพลังงานในอาคารโมดูลาร์
สั่งซื้อผนังแซนวิช Sandwich Panel จาก WISKIND ได้ที่ “CAI Engineering”
CAI Engineering เราเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ “WISKIND” ให้บริการจัดจำหน่ายผนังแซนวิช Sandwich Panel จาก WISKIND และเรายังให้บริการรับเหมาก่อสร้างห้องคลีนรูมด้วยการติดตั้งผนังแซนวิชจาก WISKIND
หากสนใจสั่งซื้อสินค้าจาก WISKIND สามารถติดต่อเรา CAI Engineering เพื่อรับคำปรึกษาหรือสั่งซื้อ Sandwich Panel จาก WISKIND ได้แล้ววันนี้ !
Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb
E-mail : veeraya@caiengineering.com