SAUTER modulo 6 : ปฏิวัติระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติด้วย IoT และ Cloud Computing

SAUTER modulo 6 : ปฏิวัติระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติด้วย IoT และ Cloud Computing

แนวคิดเกี่ยวกับ อาคารอัจฉริยะ (Smart Building) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหลายภาคส่วนทั้งในอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และภาคอุตสาหกรรม ด้วยการใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติที่ทันสมัยและเชื่อมต่อได้แบบครบวงจร ซึ่งการพัฒนานี้เป็นไปตามแนวคิดการอนุรักษ์พลังงานและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบัน 

SAUTER” หนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีการควบคุมอาคารอัตโนมัติและระบบ BAS/BMS ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ “SAUTER modulo 6” ซึ่งเป็นโซลูชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของอาคารยุคใหม่ที่ครอบคลุมการทำงานของผู้ใช้อาคาร ด้วยการผสานเทคโนโลยี IoT และ Cloud Computing เข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้งานอาคารสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SAUTER modulo 6 คืออะไร ?

SAUTER modulo 6 คืออะไร ?

SAUTER modulo 6” คือระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ (Building Management System: BMS) รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในอาคารอัจฉริยะ (Smart Building) ในยุคของ Internet of Things (IoT) โดยระบบนี้ช่วยบริหารจัดการระบบต่าง ๆ ภายในอาคาร เช่น ระบบปรับอากาศ (HVAC) ระบบแสงสว่าง การระบายอากาศ และการจัดการพลังงาน เป็นต้น

คุณสมบัติและหลักการทำงาน SAUTER modulo 6

คุณสมบัติเด่นของ SAUTER modulo 6 ช่วยให้การจัดการอาคารเป็นเรื่องที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

 

  1. รองรับเทคโนโลยี IoT และการเชื่อมต่อแบบเปิด (Open Connectivity) : SAUTER modulo 6 รองรับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในอาคารได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ อุปกรณ์ควบคุม หรือระบบอื่น ๆ ที่ใช้งาน IoT อีกทั้งระบบนี้ยังรองรับโปรโตคอล (Protocol) มาตรฐานที่หลากหลาย เช่น BACnet, Modbus, KNX และ M-Bus ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จากผู้ผลิตหลายรายได้อย่างราบรื่นอีกด้วย
  2. การขยายตัวและปรับขนาดได้ง่าย (Scalability) : SAUTER modulo 6 สามารถขยายขอบเขตการทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นอาคารขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ โดยระบบสามารถปรับตัวให้เข้ากับขนาดและความซับซ้อนของอาคารที่ต้องการควบคุม โดยไม่ต้องทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน จึงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวในการจัดการระบบภายในอาคาร
  3. การควบคุมแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Control) : SAUTER modulo 6 รองรับการควบคุมแบบกระจายศูนย์ ซึ่งหมายความว่าการควบคุมระบบอาคารแต่ละส่วนสามารถทำได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบควบคุมส่วนกลางเพียงอย่างเดียว จึงทำให้การจัดการอาคารมีความเสถียรมากขึ้น และสามารถรักษาการทำงานได้แม้บางส่วนของระบบเกิดปัญหา
  4. การจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ (Efficient Energy Management) : SAUTER modulo 6 มีฟังก์ชันสำหรับการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์การใช้พลังงานในอาคารอย่างละเอียด ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและปรับปรุงการใช้พลังงานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้สามารถลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  5. การควบคุมและตรวจสอบแบบเรียลไทม์ (Real-Time Monitoring and Control) : SAUTER modulo 6 ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถควบคุมและตรวจสอบระบบต่าง ๆ ภายในอาคารแบบเรียลไทม์จากทุกที่ผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์พกพา จึงทำให้การปรับแต่งและการตรวจสอบการทำงานของระบบสามารถทำได้ทันที ทำให้การจัดการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

โครงสร้างเครือข่าย (Topology) ของ SAUTER modulo 6

โครงสร้างเครือข่าย (Topology) ของระบบ SAUTER modulo 6 แสดงการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย IT ขององค์กรกับระบบอัตโนมัติภายในอาคาร ซึ่งประกอบด้วย

  • เครือข่ายองค์กร/อินเทอร์เน็ต : สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น คลาวด์และบริการออนไลน์
  • เครือข่ายระบบอัตโนมัติอาคาร : ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในอาคาร เช่น การปรับอากาศ (HVAC) ระบบไฟ และระบบรักษาความปลอดภัย ผ่านโปรโตคอล Modbus และ BACnet

 

ส่วนของระบบภายในประกอบด้วย 

  • ตัวควบคุม SAUTER (เช่น modu600, modu660) : รับผิดชอบการควบคุมอุปกรณ์และกระบวนการต่าง ๆ
  • เกตเวย์ BACnet/Modbus : สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้โปรโตคอล (Protocol) ต่างกัน
  • ระบบความปลอดภัย : ทำงานร่วมกับเครือข่ายทั้งด้านความปลอดภัยและการควบคุมอาคาร

 

โดยการเชื่อมต่อทั้งหมดเหล่านี้จะช่วยให้สามารถควบคุมและตรวจสอบระบบอาคารจากระยะไกลและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพลังงานและความปลอดภัยนั่นเอง               

ข้อดีในการเลือกใช้ SAUTER modulo 6

SAUTER modulo 6 ได้รับการออกแบบให้เป็นโซลูชันที่ทันสมัยสำหรับการควบคุมอาคารอัตโนมัติ โดยระบบนี้มีจุดเด่นหลายประการที่ทำเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานในอาคาร โดย SAUTER modulo 6 มีข้อดีดังต่อไปนี้

  • มีประสิทธิภาพ : รองรับการจัดการข้อมูลปริมาณมากด้วยการใช้พื้นที่น้อยที่สุด
  • การผสานระบบ :  สามารถผสานการทำงานกับโปรโตคอลต่าง ๆ เช่น BACnet, Modbus เพื่อเชื่อมต่อระบบควบคุมอาคารหลากหลายระบบ 
  • ความปลอดภัย : มีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ป้องกันการเข้าถึงด้วยการเข้ารหัสและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
  • การใช้งานที่ง่าย : สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชันและหน้าจอแสดงผล
  • loT และคลาวด์ : รองรับการเชื่อมต่อกับคลาวด์และ IoT
  • ประหยัดการลงทุน : ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการอาคาร ระบบยังสามารถอัปเกรดและปรับปรุงได้ง่ายเพื่อปกป้องการลงทุนในระยะยาว

อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในระบบของ Sauter modulo 6

อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และระบบซอฟต์แวร์ (Software) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมอาคารอัตโนมัติเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับการใช้งาน Sauter modulo 6 มีดังนี้

 

  1. Automation Stations (สถานีควบคุมอัตโนมัติ) : เป็นหัวใจหลักของระบบ ใช้สำหรับประมวลผลและควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในอาคาร เช่น ระบบปรับอากาศ แสงสว่าง และพลังงาน โดยสถานีควบคุมนี้รองรับการเชื่อมต่อกับโปรโตคอลการสื่อสารต่าง ๆ และสามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
  2. I/O Modules (โมดูลอินพุต/เอาต์พุต) : ใช้เชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์และแอคชูเอเตอร์ในอาคาร เพื่อรวบรวมข้อมูลจากระบบต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และการใช้พลังงาน รวมถึงส่งคำสั่งควบคุมไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น วาล์วและตัวควบคุมอื่น ๆ เป็นต้น
  3. Local Operating Interface (LOI) : หน่วยควบคุมท้องถิ่นที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลสีแบบกราฟิกที่มีความละเอียดสูง ใช้ในการแสดงค่าที่วัดได้และสัญญาณควบคุมในรูปแบบเรียลไทม์ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าระบบและควบคุมการทำงานได้โดยตรง
  4. Communication Modules (โมดูลสื่อสาร) : รองรับการเชื่อมต่อและการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านโปรโตคอลมาตรฐานต่าง ๆ เช่น BACnet, Modbus, KNX และ DALI โดยช่วยให้ระบบสามารถสื่อสารและควบคุมอุปกรณ์ภายในอาคารที่แตกต่างกันได้อย่างราบรื่น
  5. Cloud and IoT Connectivity (การเชื่อมต่อคลาวด์และ IoT) : ช่วยให้ระบบสามารถเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์และ IoT เพื่อการจัดการและตรวจสอบสถานะของระบบอาคารจากระยะไกลได้แบบเรียลไทม์ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการปรับปรุงการทำงานและลดการใช้พลังงานภายในอาคาร
  6. Sensors and Actuators (เซ็นเซอร์และแอคชูเอเตอร์) : เซ็นเซอร์ใช้สำหรับตรวจวัดข้อมูลสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และความดัน ส่วนแอคชูเอเตอร์ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ เช่น วาล์วและแดมเปอร์ในระบบ HVAC เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในอาคาร

 

การเลือกใช้ SAUTER modulo 6 จึงเป็นการยกระดับระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติในอาคารอัจฉริยะให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น CAI Engineering เราจึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานอาคาร โดยการปรับใช้และออกแบบระบบที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละโครงการ และมีการนำผลิตภัณฑ์จาก Sauter มาใช้ในระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งานอาคารมากยิ่งขึ้น และคำนึงถึงการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านการประหยัดพลังงานและสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

 

ติดต่อ CAI Engineering เพื่อรับคำปรึกษาได้แล้ววันนี้ !

Line OA : @caihvac หรือคลิก https://lin.ee/RTsrnHb

E-mail : veeraya@caiengineering.com

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

โครงการ T-VER คืออะไร? ทำไมธุรกิจที่เริ่มทำคาร์บอนเครดิตต้องรู้ !

T-VER โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจในประเทศไทย ซึ่งสามารถนำไปคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เพื่อซื้อขายในตลาดคาร์บอนได้

Read More »
เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศ ทางเลือกใหม่เพื่ออากาศบริสุทธิ์ในอาคาร

เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศ ทางเลือกใหม่เพื่ออากาศบริสุทธิ์ในอาคาร

สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้วยเทคโนโลยีเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ERV (Energy Recovery Ventilator) ระบบระบายอากาศทางเลือกใหม่เพื่อการประหยัดพลังงาน

Read More »

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า