นวัตกรรม IoT สู่การประหยัดพลังงานในอาคารอย่างอัจฉริยะ

นวัตกรรม IoT สู่การประหยัดพลังงานในอาคารอย่างอัจฉริยะ

การประหยัดพลังงานในอาคาร ถือเป็นส่วนช่วยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอาคาร ส่งผลให้อาคารสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการใช้พลังงาน อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มความปลอดภัยและยังรวมไปถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้งานอาคารอีกด้วย

เทคโนโลยี Internet of Things: IoT คืออะไร?

เทคโนโลยี Internet of Things: IoT คืออะไร?

เทคโนโลยี Internet of Things หรือที่เรียกว่า loT คือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ กับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำงานร่วมกันได้ โดยทั่วไปอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในระบบ IoT จะสามารถรับส่งข้อมูลและควบคุมการทำงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งหลักการทำงานของ IoT คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ กับอินเทอร์เน็ตเพื่อรับ-ส่งข้อมูลและทำงานร่วมกัน อุปกรณ์ในระบบ IoT สามารถเก็บข้อมูล ตรวจจับสถานะ หรือควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ ได้โดยข้อมูลที่รวบรวมมานั้นสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อช่วยในการตัดสินใจหรือปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ในทางธุรกิจหรือชีวิตประจำวัน การให้คำสั่งและการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์มีบทบาทสำคัญในการทำให้ระบบ IoT ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ โดยอุตสาหกรรมที่นำ IoT มาประยุกต์ใช้งานมีตัวอย่างดังนี้ เช่น

  • อุตสาหกรรมผลิต: การใช้เซนเซอร์และอุปกรณ์ตรวจวัดที่เชื่อมต่อกันเพื่อตรวจสอบและควบคุมกระบวนการผลิต
  • สายการผลิตทางอิเล็กทรอนิกส์: การนำ IoT เข้ามาช่วยในการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิต
  • อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์: การติดตามสินค้า การจัดการคลังสินค้า และการปรับปรุงกระบวนการขนส่ง
  • อุตสาหกรรมพลังงาน: การใช้ IoT เพื่อวัดและควบคุมการใช้พลังงาน รวมถึงการดำเนินการที่เชื่อมต่อกับการผลิตพลังงาน
  • สิ่งแวดล้อม: การใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อตรวจสอบและควบคุมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การจัดการน้ำหล่อเลี้ยง เป็นต้น 
  • อุตสาหกรรมการแพทย์: การใช้เซ็นเซอร์และอุปกรณ์เพื่อตรวจวัดข้อมูลการรักษาของผู้ป่วย
  • การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์: การใช้ IoT เพื่อรักษาความปลอดภัย การจัดการสิ่งก่อสร้าง และบริหารการดูแลทรัพย์สิน

โซลูชั่นของ IoT ในการช่วยประหยัดพลังงานในอาคาร

การนำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้นั้นสามารถช่วยในการประหยัดพลังงานในอาคารได้หลายทาง เช่น

  • ระบบอัตโนมัติสำหรับการควบคุมแสง: การใช้เซ็นเซอร์และระบบอัตโนมัติเพื่อปรับระดับแสงในอาคารตามสภาพแวดล้อมภายนอก และความต้องการในห้องเพื่อประหยัดพลังงาน
  • ระบบปรับอากาศ: การใช้เซ็นเซอร์อุณหภูมิเพื่อปรับควบคุมระบบปรับอากาศในอาคารให้เป็นไปตามความต้องการ ทำให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 
  • การจัดการพลังงานในระบบไฟ: การใช้ระบบ IoT เพื่อตรวจจับการใช้พลังงานในระบบไฟและปรับปรุงการใช้งานในที่ที่ไม่จำเป็น
  • ระบบอัตโนมัติสำหรับการจ่ายน้ำหล่อเลี้ยง: การใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อตรวจวัดและควบคุมการจ่ายน้ำในระบบหล่อเลี้ยงของอาคารให้เป็นไปตามความต้องการ
  • ระบบตรวจสอบการใช้พลังงาน: การใช้เซ็นเซอร์และระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบและรายงานการใช้พลังงานในเวลาจริง

การนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้ในระบบควบคุมอาคาร

การนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้ในระบบควบคุมอาคาร BMS/BAS โดยมีหลักการทำงานเพื่อควบคุมระบบต่าง ๆ ได้แก่

  • เซ็นเซอร์และอุปกรณ์ตรวจวัด: ใช้เซ็นเซอร์และอุปกรณ์ตรวจวัดต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายในอาคาร เช่น อุณหภูมิ, ความชื้น,ความดัน, แสง, แรงดันไฟฟ้า ฯลฯ
  • การส่งข้อมูลแบบออนไลน์: ใช้การสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อส่งข้อมูลจากเซ็นเซอร์ไปยังระบบควบคุมหลัก
  • ระบบควบคุมเชิงอัตโนมัติ: การให้คำสั่งหรือปรับการทำงานของระบบเองตามข้อมูลที่ได้รับจากเซ็นเซอร์ โดยไม่ต้องมีคนเข้ามาแก้ไข
  • การตรวจจับและรายงานข้อมูล: ตรวจจับข้อมูลผิดปกติและสามารถส่งรายงานไปยังผู้ดูแลหรือระบบควบคุมสูงสุด
  • การปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน: ใช้ข้อมูลเซ็นเซอร์เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานในอาคาร เช่น การควบคุมแสงไฟ ระบบทำความเย็น หรือระบบทำความร้อน ให้ทำงานในระดับที่มีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของระบบบริหารจัดการอาคารที่ขับเคลื่อนด้วย IoT

 ประโยชน์ของการใช้ระบบบริหารจัดการอาคารที่มีการนำ IoT เข้ามาใช้ เช่น

  • ประหยัดพลังงาน: การใช้เซ็นเซอร์ IoT เพื่อตรวจวัดและปรับปรุงการใช้พลังงานในอาคาร สามารถลดการใช้งานของระบบทำความเย็น ระบบไฟ และระบบอื่น ๆ ได้ อีกทั้งทำให้ลดค่าใช้จ่ายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
  • การจัดการอัจฉริยะ: ระบบ IoT ช่วยให้การจัดการอาคารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำงานอัตโนมัติตามข้อมูลเซ็นเซอร์ และปรับการทำงานของระบบต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งานปัจจุบัน
  • เพิ่มความสะดวกสบายของผู้ใช้: การใช้ IoT ใน BMS/BAS ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและปรับการทำงานของระบบอาคารได้ผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
  • การตรวจจับและแก้ไขปัญหาทันที: ระบบ IoT สามารถตรวจจับปัญหาในระบบอาคารทันทีเมื่อมีข้อมูลผิดปกติ และทำการแจ้งเตือนหรือทำการแก้ไขโดยอัตโนมัติ
  • การปรับปรุงระบบโดยต่อเนื่อง: ข้อมูลที่รวบรวมจากระบบ IoT ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงระบบอาคารในระยะยาว เพื่อให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้
ระบบ BMS/BAS โซลูชั่นประหยัดพลังงานที่ CAI เลือกใช้

ระบบ BMS/BAS โซลูชั่นประหยัดพลังงานที่ CAI เลือกใช้

CAI Engineering มีการนำเทคโนโลยี BAS/BMS เข้ามาประยุกต์ใช้ในงานคลีนรูม โดยใช้ Controller แบรนด์ Sauter รุ่น Modulo 6 ในการจัดการระบบ Monitor การใช้พลังงานในอาคาร เพื่อให้ลดการใช้พลังงานในส่วนที่ไม่จำเป็นและประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าอาคารจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ Sauter modulo 6 นั้นสามารถจัดการข้อมูลและระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการใช้ระบบ BAS/BMS นั้นยังจะสามารถช่วยผลักดันนโยบาย NET Zero ในประสบความสำเร็จได้ในอนาคตอีกด้วย

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

ห้องแรงดันบวก VS ห้องแรงดันลบ แตกต่างกันอย่างไร ? สำคัญอย่างไรกับห้องปลอดเชื้อ

ห้องแรงดันบวก VS ห้องแรงดันลบ แตกต่างกันอย่างไร ? สำคัญอย่างไรกับห้องปลอดเชื้อ

มาเข้าใจหลักการทำงานและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างห้องแรงดันบวกและห้องแรงดันลบ ว่าทำไมทั้งสองประเภทจึงมีบทบาทสำคัญในห้องปลอดเชื้อกันกัน

Read More »
Cleanroom 101 : คู่มือปฏิบัติงานสำหรับมือใหม่ในห้องคลีนรูม

Cleanroom 101 : คู่มือปฏิบัติงานสำหรับมือใหม่ในห้องคลีนรูม

คำแนะนำในการทำงานรวมถึงชุดคลีนรูมที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้ใช้งานห้องคลีนรูมเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรฐานของห้องคลีนรูม (Cleanroom) ได้อย่างถูกต้อง

Read More »

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า