การสร้างห้องคลีนรูมจำเป็นต้องอาศัยความแม่นยำสูง เพราะฟังก์ชันการทำงานภายในค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก ทุกการเปลี่ยนแปลงระหว่างการก่อสร้าง ย่อมหมายถึงงบประมาณและความกดดันที่เพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น อาจทำให้การก่อสร้างยืดเยื้อไม่จบสิ้น CAI Engineering มองเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ เราจึงตัดสินใจนำเทคโนโลยี BIM มาปรับใช้ เพื่อให้การออกแบบห้องคลีนรูมเป็นไปตามมาตรฐานที่วางไว้ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการก่อสร้าง
เทคโนโลยี BIM คืออะไร?
BIM (Building Information Modeling) คือ ซอฟต์แวร์สร้างแบบจำลองอาคาร เพื่อช่วยในการก่อสร้างแบบครบวงจร ตั้งแต่การเขียนแบบ คำนวณโครงสร้าง ประมาณราคา ไปจนถึงการวางแผนการทำงานภายในอาคาร เช่น ระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการแก้ไขข้อมูล และคำนวณทุกอย่างให้แบบอัตโนมัติ เพื่อควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างทั้งระบบ
หลังจากที่โปรแกรมจำลองการก่อสร้าง 3D ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งราวปี ค.ศ. 2013 BIM Network ร่วมกับ buildingSMART UK&I ก็เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ และเริ่มใช้กันอย่างกว้างขวาง เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ประโยชน์ของการใช้ BIM คืออะไร?
-
ช่วยควบคุมระยะเวลาการก่อสร้าง
การวางแผนการก่อสร้างแบบเดิม ๆ มักจะแยกแต่ละส่วนงานออกจากกัน ในขณะที่ BIM สามารถนำข้อมูลจากทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น การเขียนแบบ การวางระบบภายใน การจัดซื้อ ฯลฯ มาประมวลผลร่วมกันได้ ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง ทำให้การก่อสร้างเสร็จตามกำหนด ไม่ยืดเยื้อ
-
ประหยัดงบประมาณ
BIM คือเทคโนโลยีที่นอกจากจะสร้างแบบจำลอง 3 มิติขึ้นมาแล้ว ยังสามารถเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อค้นหาแนวทางการออกแบบที่ประหยัดมากที่สุดได้ การนำ BIM มาใช้จึงลดการสูญเสียวัสดุในขั้นตอนต่าง ๆ และยังช่วยประหยัดงบประมาณได้อีกด้วย
-
ลดการใช้พลังงาน
ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในหน่วยความจำของ BIM ช่วยให้ทีมผู้บริหารสามารถตรวจสอบปริมาณการใช้พลังงาน และสามารถนำมาวิเคราะห์ เพื่อหาหนทางออกแบบอาคารที่ใช้พลังงานน้อยกว่าเดิมได้ตลอดอายุการใช้งาน
-
ลดการใช้ทรัพยากรบุคคล
เห็นได้ชัดว่า BIM คือเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพราะมีส่วนช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผลการก่อสร้าง จึงช่วยลดการใช้ทรัพยากรบุคคลได้มาก ทำให้องค์กรสามารถบริหารทีมงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
-
ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างก่อสร้าง
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดที่สุดของ BIM คือ การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ เพื่อคำนวณการก่อสร้างในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งจะช่วยให้ทีมผู้สร้างมองเห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และแก้ไขได้อย่างแม่นยำ ทันท่วงที ผลลัพธ์คือสิ่งปลูกสร้างที่ได้มาตรฐาน ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และก่อสร้างเสร็จตามเวลาที่กำหนด
บทบาทของ BIM กับการสร้างห้องคลีนรูม
เป็นที่ทราบกันดีว่า การออกแบบห้องคลีนรูมคืองานที่ซับซ้อน และมีเงื่อนไขหลายอย่าง ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของมาตรฐานห้องคลีนรูม ที่ทำให้การสร้างห้องคลีนรูมแตกต่างกับการก่อสร้างทั่วไป
CAI Engineering ค้นพบว่า BIM คือเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้ออกแบบห้องคลีนรูม สามารถมองเห็นภาพจริงได้อย่างใกล้เคียง โดยเฉพาะปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เราจึงใช้ BIM เพื่อตรวจสอบการออกแบบห้องคลีนรูม หรือ ห้องปลอดเชื้อ ตั้งแต่การร่างแบบห้องคลีนรูม การวางระบบระบายอากาศ การวางระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ระบบไฟฟ้า ไปจนถึงการออกแบบอาคารให้อากาศไหลเวียนสม่ำเสมอ ซึ่งแบบจำลองข้อมูลฉบับสมบูรณ์ที่ได้จาก BIM จะช่วยลดความเสี่ยงทั้งเรื่องงบประมาณ และคุมระยะเวลาการก่อสร้างไว้ไม่ให้ยืดเยื้อ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงค่าใช้จ่าย ได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ และยังสามารถคาดการณ์แนวทางของการสร้างห้องคลีนรูมครั้งต่อไปให้คุ้มค่าได้อีกด้วย
การนำ BIM มาใช้ นอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการ และหยุดปัญหานั้นด้วยเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นการวางรากฐาน เพื่อต่อยอดไปยัง Visual Experience เพื่อส่งต่อห้องคลีนรูมที่ได้มาตรฐานสูงสุดให้กับลูกค้า และยกระดับวงการห้องคลีนรูมและระบบปรับอากาศต่อไป
หากคุณต้องการออกแบบห้องคลีนรูมให้ได้มาตรฐาน เป็นไปตามข้อกำหนดต่าง ๆ และตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม CAI Engineering ยินดีให้บริการคุณ ทั้งการออกแบบและก่อสร้างอย่างครบวงจร ด้วยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ พร้อมประสบการณ์การออกแบบห้องคลีนรูมทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 15 ปี
ร่วมเดินหน้าสู่นวัตกรรมการปรับอากาศให้เท่าทันกับโลกอนาคตไปกับเรา
Line OA : @caihvac หรือ Click https://lin.ee/RTsrnHb
E-mail : veeraya@caiengineering.com
Blockdit : https://www.blockdit.com/caiengineering
——–
