เจาะลึกเส้นทางสู่เป้าหมาย Net Zero ของอุตสาหกรรมปรับอากาศ HVAC ในไทย

เจาะลึกเส้นทางสู่เป้าหมาย Net Zero ของอุตสาหกรรมปรับอากาศ HVAC ในไทย

วัตถุประสงค์ของการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในงานวิศวกรรมระบบทำความเย็นและปรับอากาศในประเทศไทย คือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศนั้นคิดเป็น 40-60% ของพลังงานที่ใช้ในอาคาร ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่ใช้พลังงานมากที่สุด โดยในด้านการทำความเย็นและปรับอากาศนั้น วิศวกรสามารถออกแบบระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ใช้พลังงานที่น้อยลงได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำเทคโนโลยีที่ใหม่และทันสมัยมาใช้ เช่น การใช้พลังงานจากแหล่งที่มีก๊าซเรือนกระจกต่ำ หรือการใช้ระบบอัจฉริยะในการควบคุมอุณหภูมิอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการลดระดับปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาให้มีความสมดุลกับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดซับจากชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีผลต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมในระดับท้องถิ่นและระดับโลก 


โดยตอนนี้ NET ZERO ถือเป็นเป้าหมายที่สังคมโลกในยุคปัจจุบันและอนาคตต่างจำเป็นต้องร่วมกันดำเนินการไปสู่การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ โดยเจ้าของโครงการผู้ใช้งานระบบปรับอากาศอย่าง HVAC (Heating, Ventilation and Air Conditioning) ทั้งในภาคอาคารพาณิชย์และภาคอุตสาหกรรม จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อผลักดันเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจให้มีคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมให้น้อยที่สุดนั่นเอง

เป้าหมาย Net Zero Carbon และบทบาทของอุตสาหกรรม HVAC

Carbon Neutral หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน คือ ปริมาณการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดซับกลับคืนมา โดยการ “ลด” และ “ชดเชย”การปล่อยคาร์บอนจนเป็นกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไลที่มีความสำคัญต่อโลกเราอย่างมาก เพราะจะช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ต่อไปได้อย่างยาวนานและยั่งยืน  ซึ่งแตกต่างจากเป้าหมายของ Net Zero Carbon คือการทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศที่เท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกดูดกลับคืนมา โดยการ “ลด” และ “ กำจัด” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์

ซึ่งอุตสาหกรรม HVAC มีบทบาทที่สำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีผลต่อการลดการใช้พลังงานและลดการผลิตก๊าซเรือนกระจกที่มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากอุตสาหกรรม HVAC มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงในการทำความร้อน ระบายอากาศ และปรับอากาศ โดยเฉลี่ยแล้วอุตสาหกรรมปรับอากาศทั่วโลกต่างปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งนับเป็น 10% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดนั่นเอง

กลยุทธ์การประหยัดพลังงานในระบบ HVAC

  • การบำรุงรักษาโดยทั่วไป (Regular Maintenance) : เป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • อุปกรณ์สำหรับควบคุมการทำงาน (Programmable Thermostats) : ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิในอาคารตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับตัวระบบได้อย่างสะดวกและตรงตามความต้องการ
  • การแบ่งพื้นที่ปรับอากาศ (Air Conditioning Zoning) : ทำให้สามารถควบคุมอุณหภูมิในแต่ละพื้นที่ของอาคารได้อย่างอิสระ และมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมสภาพอากาศให้เหมาะสมและตรงความต้องการของแต่ละโซน
  • ฉนวนกันความร้อน (Insulation) :  เป็นวัสดุที่ใช้เพื่อลดการสูญเสียความร้อนหรือการถ่ายทอดความร้อนระหว่างสองพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่างกัน
  • ตรวจสอบการรั่วของท่อส่งลมเย็น (Leak Test) : เป็นกระบวนการที่ช่วยในการค้นหาและแก้ไขการรั่วของท่อส่งลมเย็นที่เสี่ยงต่อการสูญเสียพลังงานและประสิทธิภาพของระบบทำความเย็น
  • ติดตั้งและเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง (Efficient Equipment) : กระบวนการเลือกและการติดตั้งอุปกรณ์ที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีในการประหยัดพลังงาน ลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และลดค่าใช้จ่าย
  • แผ่นกรองอากาศ (Air Filter) : เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบปรับอากาศ เพื่อกรองฝุ่น เชื้อโรค และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร
  • การระบายอากาศตามธรรมชาติ (Natural Ventilation) : คือการใช้ลมที่อาศัยการลอยตัวของอากาศ เพื่อสร้างการเคลื่อนที่ของอากาศเข้าและออกจากอาคาร
  • พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) : คือการใช้พลังงานที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหมดอายุ เนื่องจากสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • การนำความร้อนทิ้งกลับมาใช้ใหม่ (Heat Recovery System) : เป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อกักเก็บความร้อนที่เกิดจากระบบทำความเย็นหรือระบบอื่น ๆ แล้วนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่เพื่อประหยัดพลังงาน
  • โหมดประหยัดพลังงานไฟฟ้า (DayLight Harvesting) :  ช่วยควบคุมไม่ให้มีแสงสว่างที่มากเกินไปเมื่อมีแสงแดดส่องเข้าในอาคาร
  • อุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ (Smart Controller) : เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาควบคุมและจัดการระบบในอาคารหรือบ้านอย่างอัจฉริยะ
คาร์บอนฟุตพรินท์ของระบบ HVAC กลไกสำคัญสู่ Net Zero Emissions

คาร์บอนฟุตพรินท์ของระบบ HVAC กลไกสำคัญสู่ Net Zero Emissions

การประเมินคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์ คือ การพิจารณาตั้งแต่การได้มาของวัตถุดิบจนไปถึงการกำจัดซากผลิตภัณฑ์ที่เกิดการใช้งานแล้ว ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าช่วยทำให้บรรลุเป้าหมายของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสาเหตุหลักของคาร์บอนฟุตพรินท์มาจากการใช้พลังงานปริมาณมากตลอดวัฏจักรการใช้งานในระบบ HVAC ที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกแฝงในกระบวนการต้นน้ำและปลายน้ำของระบบ จึงเกิดการร่วมมือกันของวิศวกรปรับอากาศและทำความเย็นในการขับเคลื่อนเส้นทางของอุตสาหกรรม HVAC สู่เป้าหมาย Net Zero Carbon เพื่อทำให้อุตสาหกรรมปรับอากาศในไทยก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

อ่านบทความเพิ่มเติมเรื่อง: การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ CFP ในระบบ HVAC&R

เทคโนโลยี/อุปกรณ์ใน HVAC System ที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน

ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ในระบบปรับอากาศ HVAC ที่มีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน อาทิ ระบบควบคุมอัตโนมัติ เทคโนโลยี IoT หรือเทคโนโลยีสมาร์ทที่ใช้ AI ดังนี้

  • ระบบควบคุมอัตโนมัติ (Building Automation System – BAS): ระบบนี้ช่วยในการจัดการและควบคุมการทำงานของระบบ HVAC อัตโนมัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และคุณภาพอากาศ ซึ่งการใช้ BAS นี้จะช่วยลดการใช้พลังงานโดยการปรับตัวระบบให้ทำงานตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เทคโนโลยี IoT (Internet of Things): การใช้ IoT ในระบบ HVAC ช่วยในการรวบรวมข้อมูลและการควบคุมระบบได้อย่างอัตโนมัติผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้สามารถปรับการทำงานของระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • เทคโนโลยีสมาร์ทที่ใช้ AI (Artificial Intelligence): การผสมผสาน AI ในระบบ HVAC ช่วยในการทำนายและปรับระบบให้ตรงตามเงื่อนไขการใช้งานทำให้มีการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและประหยัดมากขึ้น

CAI Engineering พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม HVAC เพื่อเป้าหมาย Net Zero อย่างยั่งยืน

CAI Engineering ได้มีการตระหนักถึงภาวะเรือนกระจกในปัจจุบัน ซึ่งในอุตสาหกรรม HVAC ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานสูงที่สุดในทุกระบบของอาคาร จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาโลกร้อนขึ้น ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะพาอุตสาหกรรม HVAC ก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้อย่างแท้จริง โดยการนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอนการสร้างคลีนรูม เช่น เทคโนโลยี BIM ที่ได้นำมาใช้ตั้งแต่การออกแบบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่าย ตลอดจนการนำระบบ BAS เข้ามาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานในอาคาร และทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ CAI Engineering ได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในการสร้างห้องคลีนรูมที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน อย่างแบรนด์ Robatherm, Sauter และ WISKIND เป็นต้น

 

ที่มา: สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย (ACAT)

ข้อมูลอ้างอิง: สัมมนาวิชาการ – เส้นทางของ HVAC Industry สู่ Net Zero Carbon

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

ห้องคลีนรูมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Cleanroom) หัวใจสำคัญของห้อง Data Center

ห้องคลีนรูมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Cleanroom) หัวใจสำคัญของห้อง Data Center

ความสำคัญของห้องคลีนรูมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Cleanroom) ในการปกป้องห้อง Data Center หรือ Server Room ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากสิ่งปนเปื้อน

Read More »
สร้างอาคารสําเร็จรูป Prefabricated ให้เสร็จไว ด้วยผนังสำเร็จรูป Sandwich Panel

สร้างอาคารสําเร็จรูป Prefabricated ให้เสร็จไว ด้วยผนังสำเร็จรูป Sandwich Panel

ผนังสําเร็จรูป Sandwich Panel วัสดุก่อสร้างที่ลดเวลาในการก่อสร้างสำหรับงานสร้างอาคารสําเร็จรูป (Prefabricated Building) ให้เสร็จเร็วยิ่งขึ้น

Read More »

By clicking “Accept”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Privacy Policy

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า